วันที่ 15 ก.พ. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ต.ท่าศาลา อ.เมือง จ.ลพบุรี ว่ามีบ้านหลังหนึ่งปลูกอยู่ริมเชิงเขาในพื้นที่หมู่ 7 ต.ท่าศาลา อ.เมือง จ.ลพบุรี ภายในบ้านมี 2 สามีภรรยาอาศัยอยู่ ฐานะยากจน ภรรยาพิการมานานหลายปี ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ สามีออกรับจ้างทำงานก่อสร้างหาเลี้ยงครอบครัว อดบ้าง หิวบ้าง แต่ไม่เคยหวั่น สามารถประคับประคองดูแลใจกันมาได้กว่า 8 ปี กระทั่งกลางดึกวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา ภรรยาบอกว่าแม่ที่ตายไปหลายปีแล้วจะมารับไปอยู่ด้วย ด้วยความวิตก สามีจึงไปหาหลวงพ่อกลางดึกเพื่อขอคำแนะนำ และความช่วยเหลือ รุ่งขึ้นหลวงพ่อได้มีเมตตานำพระมาสวดทำพิธีสะเดาะเคราะห์ต่อชะตาให้ถึงบ้าน จนภรรยาที่อาการทรุดมานานกลับฟื้นมีเรี่ยวแรงหน้าตาแจ่มใสขึ้นมาทันที

ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่บ้านหลังดังกล่าว พบมีชาวบ้านกว่า 30 คน มาคอยให้กำลังใจ ภายในบ้านพบว่าเป็นพื้นปูนเทไว้บางๆ กั้นเป็นสองห้อง มีเตียง ที่นอนเก่า และมุ้งเก่าๆ ห้องครัวที่มีแต่หม้อหุงข้าว กับเตาถ่าน อีกห้องพบ น.ส.วันเพ็ญ สุขสะอาด อายุ 53 ปี นอนอยู่บนเตียงนอน ไม่สามารถขยับเขยื่อนตัวเองได้ กลิ่นยากันยุงคลุ้งตลบอบอวน

จึงได้สอบถามถึงสาเหตุของความพิการและความเป็นอยู่ ซึ่ง น.ส.วันเพ็ญ พูดไม่ค่อยชัด พอจับใจความได้ว่าพิการจากการผ่าตัดสมอง ต้องทนทุกข์อยู่บนที่นอนมาประมาณ 8 ปี มีสามีคอยดูแลเรื่องหาข้าว อาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า และเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ ช่วงเช้าสามีไปทำงานก็จะต้องนอนอยู่บนที่นอนจนกว่าสามีจะกลับ มีลูกชายก็ไปทำงานที่ต่างจังหวัดนานๆ จะมาเยี่ยมสักครั้ง แต่ตอนนี้ลูกตกงานเนื่องจากร่างกายที่อ้วนเกินไป ไม่มีใครรับเข้าทำงาน

จากการสอบถามนายภิรมย์ เพ็ชร์รัตน์ อายุ 56 ปี สามี ทราบว่าเมื่อก่อนทั้งคู่เคยค้าขายหอยทอด ผัดไทย มีลูกค้ามากมาย ฐานะพอมีพอกิน จนเมื่อปี 2554 ภรรยาได้สะดุดล้มหัวฟาดพื้นเลือดคลั่งในสมอง หมอผ่าตัดและพิการมาตั้งแต่บัดนั้น จากนั้นชีวิตความเป็นอยู่ก็เริ่มลำบาก เงินทองที่เก็บสะสมก็หมดไปกับการรักษา จนต้องขายทรัพย์สิน ออกมาเช่าบ้านอยู่ จนมีหนี้สินติดค้าง เจ้าของบ้านได้ยกเลิกการเช่า

จึงได้ไปร้องขอผู้นำท้องถิ่นให้พูดกับเจ้าหน้าที่ทหารที่ควบคุมดูแลพื้นที่ดังกล่าว ขอปลูกบ้านที่เชิงเขาหลังนี้ เพื่ออาศัยนอน หลบแดดฝน โดยมีผู้นำท้องถิ่นรวบรวมเงินได้จำนวน 15,000 บาท ซื้อไม้ และสังกะสีมาประกอบเป็นบ้านให้ แต่เนื่องจากงบหมดจึงได้ปล่อยไว้ก่อน เมื่อมีค่อยหาเงินมาเพื่อประกอบบ้านให้เสร็จ

นายภิรมย์ เล่าต่อว่า เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ช่วงกลางดึก ภรรยาได้ปลุกตนแล้วบอกว่าแม่ที่ตายไปนานมาแล้ว จะมารับไปอยู่ด้วย ตนได้แต่ปลอบใจภรรยาและตัวเอง ทั้งที่ใจแทบสลาย เนื่องจากระยะหลังภรรยาอาการไม่สู้ดีนัก กินข้าวไม่ได้ นอนไม่หลับ เป็นแผลกดทับจากการนอนอยู่บนที่นอนมากว่า 8 ปี และหายใจลำบาก ซึ่งก็ได้แต่หวังว่าอาการจะดีขึ้นมาบ้าง ซึ่งตนคิดอะไรไม่ออก จึงได้เดินทางไปที่วัดเขาหนีบใกล้บ้าน เพื่อขอคำแนะนำจากหลวงพ่อดังกล่าว

จนหลวงพ่อท่านมีเมตตามาทำพิธีสะเดาะเคราะห์ ต่อดวงชะตาตามประเพณีโบราณให้ เพื่อความสบายใจ ตอนนี้สบายใจขึ้นมาก ภรรยามีสีหน้าแจ่มใส พูดคุยได้ กินได้ ทำให้ตนดีใจอย่างบอกไม่ถูก ตนรักภรรยามาก ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นเช่นไร จะขออยู่ด้วยกันไปจนตายกันไป ไม่รู้ว่าใครจะตายก่อนกัน พร้อมทั้งได้บรรจงจูบภรรยา โดยมีภรรยาโน้มคอสามีจูบตอบซึ่งเป็นภาพแห่งความประทับใจกับชาวบ้านที่มาให้กำลังใจหลายคน

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

สำหรับบ้านที่อยู่เมื่อฝนตก น้ำจากเขาไหลลงเข้ามาที่บ้านอย่างรวดเร็ว จะไหล่เอ่อเข้าท่วมขังทันที กลัวบ้านที่ไม่ถาวรกลัวจะพังครืนลงมา เมื่อฝนตกหนักน้ำฝนจะกระเด็นลงมาใส่ภรรยาจนเปียกปอน อีกทั้งยังมีสัตว์เลื้อยคลานที่มีพิษ นานา ชนิดเข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านทั้งงู ตะขาบ แมงป่อง และยุงลาย เนื่องจากบ้านยังโล่ง ไม่มีฝา ประตู หน้าต่าง แต่สิ่งที่อยากจะได้ที่สุดคืออิฐบล็อกจำนวนไม่มาก ปูนซีเมนต์ ก่อขึ้นเล็กน้อย เพื่อกันน้ำฝนไม่ให้ไหลเข้าบ้าน และกันสัตว์มีพิษที่จะเข้ามา

อยากทำ ประตู หน้าต่างให้ภรรยา ให้ลมพัดเข้ามาบ้าง เนื่องจากว่ากลางวันร้อนมาก และมียุงลายที่อาศัยอยู่ตามเขารุมกัด ต้องจุดยากันยุงรอบเตียงซึ่งไม่เป็นผลดีต่อร่างกาย สำหรับพี่น้องประชาชนชาวไทยที่มีจิตเมตตาสามารถช่วยเหลือสองสามีภรรยานี้ได้ตามบัญชี ธนาคารออมสินสาขาโรบินสันลพบุรี หมายเลขบัญชี 020-186-817-704 ชื่อบัญชี นายภิรมย์ เพ็ชร์รัตน์ หมายเลขโทรศัพท์ 063-8411-828


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน