วันที่ 25 ก.พ. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากประธานเครือข่ายเมาไม่ขับจังหวัดชัยนาท เพื่อให้ความช่วยเหลือ น.ส.นิรวรรณ เล็กอึ่ง หรือน้องไอซ์ อายุ 22 ปี ที่บ้านเลขที่ 115 หมู่ 8 ต.ตลุก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ไปยังบ้านดังกล่าว พบว่าน้องไอซ์ มีความพิการกล้ามเนื้อขาอ่อนแรงทั้ง 2 ข้าง อาศัยอยู่บ้านไม้ผุๆ ข้างฝาล้อมด้วยสังกะสี หลังคารั่ว อยู่กับนายบุญลือ เอี่ยมปลัด อายุ 80 ปี ป่วยเป็นอัมพาตเดินไม่ได้ ส่วนพ่อกับแม่ออกไปทำงานรับจ้างทั่วไปรายได้ไม่แน่นอน

สำหรับน้องไอซ์ต้องพึ่งรถจักรยานออกกำลังกายวันละ 2 ชั่วโมง ซึ่งยืมมาจากเทศบาลตำบลตลุก และกำลังจะถูกนำกลับคืนไปเพราะเป็นของหลวงนำมาใช้ที่บ้านไม่ได้ แต่หากไม่มีจักรยานปั่นจะทำให้น้องไอซ์เดินไม่ได้อีกต่อไป ประกอบกับบ้านติดจำนอง 2 แสนบาท หากหาเงินไปไถ่ถอนไม่ได้จะถูกยึด 4 ชีวิตจะไม่มีที่อาศัย ขณะที่รายได้ของพ่อกับแม่เพียงใช้ประทังชีวิตให้รอดไปวันๆ

นางบุญเลิศ เอี่ยมปลัด อายุ 52 ปี แม่ของน้องไอซ์ เล่าว่า น้องไอซ์เกิดความผิดปกติทางร่างกายเนื่องจากคลอดก่อนกำหนด ตอนอายุครรภ์ 7 เดือนครึ่ง แต่มารู้ว่าลูกมีความผิดปกติตอน 2 ขวบ เห็นว่าส้นเท้าแตะไม่ถึงพื้น และยืนไม่ได้ จึงเริ่มเข้ารับการรักษา แต่หมอให้รอจนอายุ 10 ขวบ จึงจะสามารถผ่าตัดได้ ตอนนั้นช่วงปี 2550 แต่อาการก็ไม่ดีขึ้นจนหมอบอกว่าหมดทางรักษาแล้ว ประกอบกับแม่ตนเกิดมาป่วยด้วยโรคมะเร็งกระดูก ซึ่งได้ใช้เงินเป็นค่ารักษาและค่าเดินทางไปรักษาตัวที่ กทม. เป็นจำนวนมาก ทั้งรักษาตัวลูก และแม่ตนที่ป่วย จนต้องนำบ้านไปจำนอง

ต่อมาปี 2554 แม่ตนได้เสียชีวิตลง และพ่อตนก็มาป่วยเป็นโรคอัมพฤกษ์อัมพาต จากเส้นเลือดในสมองตีบเดินไม่ได้ เมื่อปีที่ผ่านมาจึงต้องลาออกจากงานประจำ เพื่อมาดูแลลูกสาวพิการ และพ่อตนที่ป่วยนอนติดบ้าน มาประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป แต่รายได้ไม่แน่นอน จนต้องไปกู้เงินจากธนาคารหลายแห่งรวมกว่า 1 แสนบาท เพื่อนำมาใช้จ่ายและลงทุนประกอบอาชีพ แต่เวลาผ่านไปไม่สามารถหาเงินไปชดใช้เขาได้จนต้องถูกฟ้อง แต่จะต่อรองเขาว่าขอชดใช้แต่ต้นเงินได้ไหมเพราะไม่มีปัญญาหาเงินจำนวนมากมาชดใช้เขาได้ แต่ละวันตนออกไปรับจ้างเก็บแตงกวาหาเงินมาได้วันละ 100-200 บาท สามีอีกแรงได้วันละ 300 บาท พอใช้ประทัง 4 ชีวิตไปวันๆ หนึ่ง

สิ่งที่เป็นห่วงคือ ได้จำนองบ้านไว้เป็นเงิน 200,000 บาท ได้กำหนดไว้ว่าภายใน 8 ปีต้องนำเงินมาไถ่ถอน แต่ขณะนี้ผ่านไป 4 ปีแล้วยังหาเงินมาให้เขาไม่ได้เลย เกรงว่าหากตนและสามีเป็นอะไรไปลูกจะไม่มีที่อยู่อาศัย และทุกวันตอนเย็นต้องรีบกลับมาบ้านพาน้องไอซ์ขึ้นจักรยานเพื่อปั่นออกกำลังกาย เป็นการทำกายภาพบำบัด แต่ล่าสุด ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านว่าทางเทศบาลตำบลตลุก จะขอจักรยานกลับไปซ่อมและเขาบอกว่าเป็นของหลวงจะเอามาใช้ที่บ้านไม่ได้ เราต้องเดินทางไปออกกำลังกายที่เทศบาล แต่ตอนนี้น้องไอซ์ตัวใหญ่แล้วเดินทางไม่สะดวก แต่หากไม่ได้ปั่นจักรยานจะทำให้เส้นเอ็นที่ขายึดและน้องไอซ์จะเดินไม่ได้อีกเลย แม้ตอนนี้จะเดินได้บ้างแต่ต้องใช้อุปกรณ์ช่วยในการเดิน สามารถเข้าห้องน้ำเองได้

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ขณะที่น้องไอซ์ กล่าวว่า ทุกวันต้องรอแม่กลับจากเก็บแตง พาขึ้นจักรยานปั่นออกกำลังกาย ประมาณ 4 โมงเย็น เพราะจะทำให้ขาแข็งแรงขึ้น ก่อนที่จะมีจักรยานปั่นออกกำลังกาย ตอนนั้นลุกขึ้นแทบไม่ได้เลย แต่เมื่อมีแล้วปั่นออกกำลังกายทุกวัน สามารถใช้อุปกรณ์พยุงเดินได้เข้าห้องน้ำเองได้ หากวันไหนไม่ได้ปั่นจักรยานจะมีอาการขาสั่นมากจนต้องไปหาหมอฉีดยา สิ่งที่อยากให้ช่วยเหลือคืออยากทำงาน เป็นงานที่ทำอยู่กับบ้าน อยากจะช่วยพ่อแม่อีกแรงหนึ่ง และอีกอย่างคือบ้านที่ติดจำนองตั้ง 2 แสนบาท เราไม่สามารถที่จะหาเงินมาได้ ไม่มีแรงที่จากหามาใช้หนี้เขาได้ บางวันแม่ออกไปไม่ได้งานเลย พ่อได้คนเดียวบางมื้อก็ต้องอดบ้าง บางครั้งไม่มีจริงๆ ต้องไปยืมเพื่อนบ้าน

ผู้ใจบุญประสงค์จะให้ความช่วยเหลือครอบครัวน้องไอซ์ สามารถโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารออมสิน สาขาชัยนาท เลขที่บัญชี 020269435325 ชื่อบัญชี นางสาวบุญเลิศ เอี่ยมปลัด


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน