จากกรณีตำรวจ สภ.สวี จ.ชุมพร จับกุม นายชนะ สุดสาคร อายุ 48 ปี หลังก่อเหตุข่มขืนสาวพิการวัย 17 ปี ภายในบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ ต.ด่านสวี อ.สวี จ.ชุมพร และถูกจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยนายชนะ สามารถเข้าบอกออกในบ้านหลังดังกล่าวได้ เนื่องจากเป็นเพื่อนบ้านกับพ่อของสาวผู้เสียหาย และอาศัยช่วงที่ไม่มีใครอยู่บ้านลงมือก่อเหตุ พร้อมทั้งขู่จะฆ่าหากนำเรื่องไปบอกใคร ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว เพื่อนบ้านหื่น สุดโฉด ไว้ใจ ให้กิน-ลงทุนให้ ไม่สำนึก ข่มขืนลูกสาวพิการ วัย17 แถมขู่ฆ่า
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 11.30 วันที่ 8 มี.ค. นางวัลภา แก้วสวี พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พมจ.) ชุมพร ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.คำสิงห์ ศรียาภัย ผกก.สวี และพ.ต.ท.สายันต์ จันทมาศ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.สวี เพื่อสอบถามความคืบหน้าเรื่องคดี โดย พ.ต.อ.คำสิงห์ เปิดเผยว่า ขณะนี้เหลือเพียงพยานหลักฐานเกี่ยวกับการพิสูจน์จากผู้ชำนาญด้านนิติวิทยาศาสตร์เพื่อยืนยันการกระทำความผิดประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ สำนวนก็จะเสร็จสมบูรณ์ พร้อมให้ความเป็นธรรมทั้งผู้เสียหายและผู้ถูกกล่าวหา ส่วนผู้ถูกกล่าวหานั้นยังให้การปฏิเสธในชั้นพนักงานสอบสวนก็เป็นสิทธิ์กระทำได้ ซึ่งขณะเดียวกันเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้ส่งตัว นายชนะ ไปฝากขังผัดแรกที่ศาลหลังสวนแล้ว
ต่อมา นางวัลภา ได้เดินทางไปยังพื้นเกิดเหตุพบ นางเอ (นามสมมติ) อายุ 48 ปี และลูกสาวพิการแขนขาวัย 17 ปี เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจ เบื้องต้นมอบเงินสงเคราะห์ให้ 2,000 บาท และแนะนำสิทธิ์เงินกู้คนพิการในวงเงิน 20,000-60,000 บาท โดยไม่มีดอกเบี้ย ซึ่งเปิดโอกาสในการสร้างอาชีพให้ครอบครัวของผู้เสียหายด้วย
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
ขณะเดียวกันชาวบ้านละแวกใกล้เคียงห้องแถวที่เกิดเหตุ ให้ข้อมูลว่ารู้จักผู้ต้องหาเป็นอย่างดี และก่อนหน้านี้ยังเคยมานั่งคุยกันอยู่บ่อยๆ รวมทั้งผู้ต้องหาเคยเล่าให้ฟังว่า ได้ช่วยนั่งบีบนวดแขนขาให้สาวพิการด้วย และบอกว่าได้นอนกับน้องเขาครั้งหนึ่ง แต่ชาวบ้านไม่เชื่อ และเชื่อว่าน่าจะทำมาแล้วหลายครั้ง เนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติกรรมไม่ค่อยน่าไว้วางใจ ระยะหลังมีอาการแปลกๆ เหมือนคนติดยาเสพติด ไม่ค่อยได้ออกทะเลแต่ชอบขี่รถจยย.เที่ยวเตร่ไปเรื่อย กระทั่งมาถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว
