วันที่ 10 มี.ค. หลังจากที่เกิดเหตุระเบิดที่ จ.สตูล และ จ.พัทลุง ตำรวจฝ่ายมวลชนสัมพันธ์ของ สภ.หาดใหญ่ และทหารพรานหญิงของหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานจังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องออกประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือจากประชาชนหาดใหญ่ตามย่านการค้าต่างๆ เพื่อให้ช่วยกันเฝ้าระวังสิ่งของต้องสงสัยและรถทุกชนิดที่เข้ามาจอดในลักษณะผิดสังเกตุหรือถูกทิ้งไว้นานผิดปกติ เพื่อป้องกันกาเข้ามาก่อเหตุลอบวางระเบิดซึ่งได้มีการแจ้งเตือนให้ทุกพื้นที่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยสูงสุดในช่วงนี้

ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงประเมินเหตุการณ์เหตุระเบิดที่ จ.สตูล และ จ.พัทลุงที่เกิดขึ้น เป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์วันครบรอบ 110 ปี สนธิสัญญายกพื้นที่แหลมมาลายูให้อังกฤษปกครอง 9 มี.ค.1909 และเป็นที่มาของการพ่นสีข้อความ “PATTANI 110” ในหลายๆ พื้นที่เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 3 อำเภอชายแดนของ จ.สงขล และวันที่ 13 มี.ค. วันเชิงสัญลักษณ์ในการหายสาปสูญของ หะยีสุหลง โต๊ะมีนา ประกอบกับ เหตุการณ์ทางการเมือง เมื่อ 7 มี.ค. ศาลรัฐธรรมนูญ พิพากษายุยพรรคไทยรักษาชาติ ซึ่งอาจมีส่วนเชื่อมโยงกัน

พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 ได้วิทยุด่วนถึงหัวหน้าสถานีตำรวจในภาค 9 ทั้ง 7 จังหวัดให้มีการเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังพื้นที่ โดยเฉพาะในชุมชนทุกแห่ง เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่จะเกิดขึ้นในช่วงเลือกตั้ง ส.ส. เพราะเหตุการณ์ที่เกิดใน จ.พัทลุง และ จ.สตูล มีแนวโน้มสูงอาจจะเชื่อมโยงกับการเมือง แต่ยืมมือคนร้ายในพื้นที่ชายแดนใต้ เพราะลักษณะการก่อเหตุใกล้เคียงกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า เหตุระเบิดที่ จ.พัทลุง และ จ.สตูล จากการตรวจสอบพบว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่องขนาดเล็กจุดชนวนด้วยการตั้งเวลาไปวางซุกซ่อนในร้านขายของชำ ถังขยะ สถานที่สาธารณะ และ 1 จุดได้ประกอบระเบิดไว้ในรถจยย.ไปจอดไว้หน้า สภ.เมืองสตูล แรงระเบิดทำให้ร้านค้าได้รับความเสียหาย ทรัพย์สินของทางราชการเสียหายบางส่วน ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต รถจยย.ที่นำมาใช้ประกอบระเบิดตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นรถที่แจ้งหายไว้ที่ สภ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา ถูกคนร้ายปล้นไปเมื่อวันที่ 28 พ.ย.61

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

“เหตุการณ์ดังกล่าวยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งความมั่นคง ความขัดแย้งทางการเมืองและภัยแทรกซ้อนอื่น โดยเฉพาะการปราบปรามขบวนค้ามนุษย์และยาเสพติดอย่างหนัก ส่วนกลุ่มก่อเหตุคาดว่า เป็นกลุ่มเดียวกัน โดยใช้การวางแผนแบบรวมการ และปฏิบัติแบบแยกการ เพื่อสร้างความหวาดกลัว ทำลายภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นในอำนาจรัฐ ส่วนจะเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่นั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบหลักฐานและความเชื่อมโยงเพื่อขยายผล” พ.อ.ปราโทมย์ กล่าว

พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้หน่วยทำการตรวจสอบทุกพื้นที่เก็บรวบรวมวัตถุพยานอย่างละเอียดเพื่อติดตามกลุ่มก่อเหตุมาลงโทษตามกฎหมาย ขอให้ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนาและประชาชนทุกศาสนิก ประสานความร่วมมือกันประนาฌต่อต้านและปฏิเสธการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ พร้อมช่วยกันตรวจสอบบุคคลหรือ วัตถุต้องสงสัยหากพบรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบหรือโทรสายด่วน 1341 ตลอด 24 ชั่วโมง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน