วันที่ 21 มี.ค. พ.ต.ท.กิตติพล สมสิทธิ์ สว.(สอบสวน) สภ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู รับแจ้งเหตุมีผู้ยิงเสียชีวิต ที่ไร่อ้อยริมถนนสายบ้านมอเหนือ-บ้านฝายหิน เขตบ้านหนองแวงพัฒนา ต.โนนม่วง อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.อัษดิน สมศรี ผกก.สภ.ศรีบุญเรือง ตำรวจชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการ แพทย์เวร ร.พ.ศรีบุญเรือง และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมังกรศรีบุญเรือง
ที่เกิดเหตุภายในไร่อ้อยมีรอยไฟไหม้เป็นวงกล้าง พบศพนางสมหมาย ชินราม อายุ 69 ปี มีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนลูกซองเข้าที่เบ้าตาซ้าย เสื้อผ้าและขามีรอยไฟไหม้ ห่างออกไป 30 เมตร พบศพ นายสมัย ชำนิ อายุ 69 ปี ซึ่งเป็นสามี นอนเสียชีวิตบนคันดินทางไปกระท่อม มีบาดแผลถูกยิงด้วยปืนลูกซองเข้าที่ไหล่ขวาและลำคอ เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมรายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐาน
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ใกล้เคียงและบ้านที่อยู่ติดไร่อ้อย พบนายบุญเส็ง ทาสม อายุ 78 ปี อยู่ในกระท่อมหลังบ้านใกล้กับที่พบศพนางสมหมาย ก่อนตรวจค้นไปพบปืนลูกซองยาว 1 กระบอก วางอยู่บนหลังคาที่ซ่อนอยู่ใต้จั่วของกระท่อม จึงตรวจยึดพร้อมปลอกกระสุนปืนที่ยิงแล้ว แล้วนำตัวนายบุญเส็ง ไปสอบปากคำที่โรงพัก
จากการสอบปากคำร่วม 2 ชั่วโมง กระทั่งนายบุญเส็ง ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนยิงทั้ง 2 คนเสียชีวิตจริง โดยใช้ปืนลูกซองกระบอกดังกล่าว ซึ่งตนกับสองผัวเมียนี้มีเรื่องบาดหมางกันมานาน เพราะตนเชื่อว่าสองผัวเมียเป็นคนขโมยข้าวของในบ้านตน รวมทั้งไก่ด้วย จึงเกิดปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกันบ่อย กระทั่งวันนี้นางสมหมาย มาด่าตน จึงเกิดความโมโห คว้าปืนออกมายิงนางสมหมาย ระหว่างนั้น นายสมัย วิ่งมาตนจึงยิงจนเสียชีวิตทั้งคู่ ส่วนที่มีไฟไหม้อ้อยนั้น ตนไม่ได้เป็นคนจุดไฟเผา เพราะระหว่างเกิดเหตุนางสมหมาย ออกมาดับไฟดังกล่าว จนเกิดเรื่องขึ้น
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง รวมทั้งสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง เพื่อรวบรวมไว้เป็นหลักฐานก่อนแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา และมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต เอาไว้ก่อน หากพบความผิดเพิ่มเติมก็จะแจ้งข้อหาต่อไป
