วันที่ 26 ก.ย. ผู้สื่อข่าวปราจีนบุรีรายงานว่า กรณีฝนตกหนักเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมานานกว่า 1 ชั่วโมง เป็นเหตุให้ถนนหลายสายมีน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะถนนสายหลัก 2 ช่องทางการจราจรระดับน้ำสูง 30-50 เซนติเมตร ทั้งฝั่งขาออกและขาเข้าตัว อ.กบินทร์บุรี คือถนนสายสุวรรณศร 33 และถนนสาย 304 รถยนต์ที่วิ่งผ่านต้องใช้ความระมัดระวัง
จากการตรวจสอบพบว่าถนนสายสุวรรณศร หรือทางหลวงหมายเลข 33 กบินทร์บุรี-มุ่งหน้า จ.สระแก้ว บริเวณหน้าอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์กบินทร์บุรี หมู่ 5 ต.นนทรี ช่วงหลัก กม.ที่ 154-155 น้ำท่วมขังพื้นผิวจราจรทั้ง 4 ช่องทาง สูง 30-50 เซนติเมตร กว่า 1 กิโลเมตร
อีกจุดบริเวณหลัก กม.ที่ 203-204 ถนนสายสุวรรณศร ตั้งแต่หน้าปั๊ม ปตท.ผาติวานิช หมู่ที่ 8 ตำบลเมืองเก่า สระแก้ว-มุ่งหน้าเข้าสัญญาณไฟจราจรกบินทร์บุรี มีน้ำท่วมขังเป็นระยะทางยาวกว่า 500 เมตร สูง 30-50 เซนติเมตร
ส่วนถนนสาย 304 พบว่ามีน้ำรอการระบายเช่นเดียวกันถึง 2 แห่ง คือ บริเวณหลัก กม. 175-176 นครราชสีมา-ฉะเชิงเทรา ตั้งแต่หลัก กม.ที่ 175-176 ตำบลหนองที่ ระดับน้ำสูง 30-50 เซนติเมตร ระยะทางกว่า 500 เมตร เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสัจจพุทธธรรมกบินทร์บุรี ต้องอำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่ใช้รถใช้ถนนเพื่อความปลอดภัย
นอกจากนี้ฝนและลมที่กรรโชกแรงยังทำให้ไม้ล้มระเนระนาด โดยเมื่อเวลา 22.00 น. วันเดียวกัน เกิดเหตุต้นไม้ขนาดใหญ่โค่นทับบ้าน และรถยนต์ ได้รับความเสียหาย ที่บ้านเลขที่ 24 หมู่ 2 ต.หาดยาง อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียว โดยบริเวณโรงเก็บรถและห้องครัวหลังบ้าน พบต้นมะขามและต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ 2-3 คนโอบ โค่นลงมาทั้งรากทับส่วนที่เป็นหลังคาโรงจอดรถ จนหลังคายุบพังลงมาทั้งแถบ ทับรถยนต์ที่จอดอยู่ในโรงจอด ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน กง 4122 นครนายก เสียหายหลังคาเก๋งยุบ กระจกด้านหลังแตก
นายณรงค์ สุขมา อายุ 74 ปี เจ้าของบ้าน เผยว่า ช่วงเกิดเหตุทุกคนในบ้านกำลังพักผ่อน ได้ยินเสียงดังสนั่น บ้านสะเทือนทั้งหลัง ออกมาดูพบว่า ต้นมะขามยักษ์อายุกว่า 100 ปี ซึ่งมีต้นโพธิ์เกาะอาศัยจนมีขนาดใหญ่ โดยต้นไม้ทั้งคู่โค่นลงมาแบบถอนรากถอนโค่น คาดว่าต้นไม้อายุเป็นร้อยปี รากอาจผุ ประกอบกับดินมีการอ่อนตัวเพราะฝนตกหนัก จึงโค่นลงมาจนได้รับความเสียหาย แต่โชคดีไม่มีผู้ใดบาดเจ็บ
