วันที่ 7 เม.ย. พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผบ.ทร. และคณะ ประกอบด้วย พล.ร.อ.โสภณ วัฒนมงคล รอง ผบ.ทร. ในฐานะ ผู้อำนวยการการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี 2562 พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน เสนาธิการทหารเรือ พล.ร.อ.นภดล สุภากร ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ พล.ร.ท.ไกรศรี เกษร รองเสนาธิการทหารเรือฝ่ายยุทธการ พล.ร.ท.สิทธิพร มาศเกษม ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการฝึกภาคสนาม/ภาคทะเล ในการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี 2562 บริเวณหาดท้ายเหมือง อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา โดยมี พล.ร.ท.รณรงค์ สิทธินันทน์ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน พล.ร.ต.วราห์ แทนขำ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง และ พล.ร.ต.เทวินทร์ ศิลปชัย ผู้บัญชาการกองเรือยกพลขึ้นบกและยุทธบริการ กองเรือยุทธการ ให้การต้อนรับ

การฝึกในวันนี้เริ่มด้วยการฝึกยิงอาวุธทางยุทธวิธี ของหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (สอ.รฝ.) โดยหน่วยยิงกองพันต่อสู้อากาศยานที่ 22 ได้ฝึกยิงเป้าอากาศยาน หน่วยยิงกองพันรักษาฝั่งที่ 11 ฝึกยิงเป้าพื้นน้ำ และหน่วยยิงกองพันต่อสู้อากาศยานที่ 22 และ กองพันปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน กองพลนาวิกโยธิน ได้ยิงอาวุธปล่อยประทับบ่าแบบ QW–18 ตามลำดับ

จากนั้น กองเรือทุ่นระเบิด กองเรือยุทธการ ฝึกการวางและทดสอบกลไกการทำงานโดยอัตโนมัติของทุ่นระเบิดทอดประจำที่ปราบเรือดำน้ำแบบล่องหน (MI9) จำนวน 2 ลูก และเข้าสู่การฝึกปฏิบัติการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก พร้อมส่งกำลังรบยกพลขึนบกขึ้นสู่ฝั่งเพื่อคลี่คลาย สถานการณ์ความขัดแย้งบนบกตามลำดับ ตามแนวคิดจากทะเลสู่ฝั่ง (From The Sea)

โดยผลการฝึกทดสอบต่างๆ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดียิ่ง ทุกลำดับการฝึก โดยเฉพาะอย่างยิ่งทุ่นระเบิด MI9 ที่กองทัพเรือทำการวิจัย และผลิตได้เอง สามารถทำงานจุดระเบิดต่อเป้าแปลกปลอมใต้น้ำ/ผิวน้ำที่ลักลอบผ่านเข้าในสนามทุ่นระเบิดได้โดยอัตโนมัติ กลไกการจุดระเบิดทำงานได้อย่างสมบูรณ์ จึงนับว่าได้ผ่านการทดสอบอีกครั้งนับจากประสบความสำเร็จอย่างดีในการทดสอบที่ฝั่งอ่าวไทยในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้กองทัพเรือ มีอาวุธที่มีอานุภาพสูงสำหรับการป้องกันประเทศทางทะเล ที่ผลิตได้เอง ต้นทุนต่ำ ไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีของต่างชาติ นำมาซึ่งความมั่นใจและภาคภูมิใจของกองทัพเรือ

ทั้งนี้ กองทัพเรือได้จัดให้มีการฝึกกองทัพเรือเป็นประจำทุกปี เพื่อบูรณาการการฝึกภายในกองทัพเรือ ด้วยการนำขีดความสามารถในการปฏิบัติการทางเรือตามสาขาต่าง ๆ การปฏิบัติและการสนับสนุนของกรมในส่วนบัญชาการ ส่วนยุทธบริการ และส่วนการศึกษา ที่มีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน มาทำการฝึกภายใต้สถานการณ์

การฝึกเดียวกันและใช้ทรัพยากรร่วมกัน โดยการฝึกในปีนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบกระบวนการวางแผนทางทหาร ทดสอบการอำนวยการยุทธ์ของศูนย์ปฏิบัติการต่าง ๆ ของกองทัพเรือ และทดสอบขีดความสามารถในการปฏิบัติการของหน่วยต่างๆ โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือ 1.เพื่อทดสอบกระบวนการวางแผนทางทหาร 2.เพื่อทดสอบแนวทางการใช้กำลัง และการอำนวยการยุทธ์ ตามคำสั่งยุทธการที่ใช้ในการฝึก ในสถานการณ์ภาวะความขัดแย้งระดับปานกลางถึงระดับสูง และ 3.เพื่อทดสอบขีดความสามารถการปฏิบัติการทางเรือสาขาต่างๆ

กองทัพเรือได้อนุมัติให้จัดการฝึกกองทัพเรือนี้ ตามวงรอบการฝึก 2 ปี โดยใช้สถานการณ์ฝึกต่อเนื่อง ซึ่งในปีแรก (2561) ได้ทำการฝึกสถานการณ์ในภาวะปกติจนถึงภาวะความขัดแย้งระดับต่ำหรือขั้นการเตรียมการก่อนเข้าสู่ภาวะวิกฤติเรียบร้อยไปแล้ว และการฝึกในปีนี้ได้ทำการฝึกสถานการณ์ภาวะความขัดแย้งระดับปานกลาง ถึงความขัดแย้งระดับสูง ทำการฝึกภาคปฏิบัติในลักษณะบูรณาการ ด้วยการสนธิกำลังระหว่างหน่วยทำการฝึกโดยใช้สถานการณ์ฝึกเดียวกัน เพื่อทดสอบขีดความสามารถในการปฏิบัติการทางเรือสาขาต่างๆ

ขั้นการฝึกที่สำคัญในการฝึกกองทัพเรือ ประจำปี 2562 ประกอบด้วย 1.การฝึกปัญหาที่บังคับการ ซึ่งเป็นการฝึกทดสอบกระบวนการวางแผนเผชิญสถานการณ์วิกฤติ การฝึกทดสอบการตัดสินใจ ตามกระบวนการวางแผนทางทหาร และทดสอบการอำนวยการยุทธ์ตามคำสั่งยุทธการการฝึก โดยได้ทำการฝึก ระหว่างวันที่ 11 – 28 มีนาคม 2562 ซึ่งเป็นการฝึกสถานการณ์ต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง

2. การฝึกภาคสนาม/ภาคทะเล จะเป็นการฝึกภาคปฏิบัติในลักษณะบูรณาการ ด้วยการสนธิกำลังระหว่างหน่วยทำการฝึก โดยใช้สถานการณ์ฝึกเดียวกัน เพื่อทดสอบขีดความสามารถในการปฏิบัติการทางเรือสาขาต่าง ๆ และที่สำคัญจะได้มีการบูรณาการการฝึกร่วมกับกำลังของกองทัพบกและกองทัพอากาศด้วย ทำการฝึกระหว่างวันที่ 29 มี.ค.- 17 เม.ย. และระหว่างวันที่ 13 – 17 พ.ค. ในพื้นที่ทั้งด้านอ่าวไทยและฝั่งทะเลอันดามัน โดยมีหัวข้อการฝึกที่สำคัญ ดังนี้

2.1 การฝึกปฏิบัติการร่วมระหว่างเรือและอากาศยานของกองทัพอากาศ ในพื้นที่บริเวณฝั่งทะเลอันดามัน ด้านตะวันตกของจังหวัดพังงา ระหว่างวันที่ 4-7 เม.ย., 2.2 การฝึกยิงอาวุธปล่อยนำวิถี C-802A ในวันที่ 5 เม.ย., 2.3 การฝึกวางและจุดทุ่นระเบิดปราบเรือดำน้ำแบบล่องหน และการฝึกปฏิบัติการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก ในพื้นที่ฝั่งทะเลอันดามัน บริเวณหาดท้ายเหมือง จังหวัดพังงา ในวันที่ 7 เม.ย.

2.4 การฝึกสนธิกำลังดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง ซึ่งจะมีการฝึกปฏิบัติการร่วมของกองกำลังนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง กำลังของกองทัพบก และกำลังของกองทัพอากาศ บริเวณสนามฝึกกองทัพเรือ บ้านจันทเขลม จังหวัดจันทบุรี ระหว่างวันที่ 13-17 พ.ค.

ในการนี้ กองทัพเรือได้จัดกำลังพลจากหน่วยต่างๆ อาวุธ และยุทโธปกรณ์ที่สำคัญเข้าร่วมการฝึกในสถานการณ์ต่างๆ ประกอบด้วย กองเรือยุทธการ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง เรือหลวงจักรีนฤเบศร เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช เรือหลวงตากสิน เรือหลวงกระบุรี เรือหลวงบางปะกง เรือหลวงนราธิวาส เรือหลวงปัตตานี เรือหลวงสงขลา เรือหลวงราชฤทธิ์ เรือหลวงล่องลม เรือหลวงอ่างทอง เรือหลวงถลาง เรือหลวงลาดหญ้า เรือหลวงท่าดินแดง เรือหลวงแหลมสิงห์ เรือหลวงมันใน อากาศนาวี ยานรบสะเทินน้ำสะเทินบก กำลังรบจากกองทัพบกและอากาศยานจากกองทัพอากาศ

ทั้งนี้ การฝึกกองทัพเรือ ถือเป็นนโยบาย ที่ผู้บัญชาการทหารเรือให้ความสำคัญ เพื่อให้กำลังพลทุกระดับ และทุกหน่วยรบ มีความพร้อมสูงสุด ให้กองทัพเรือสามารถ รักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลได้ ตั้งแต่สถานการณ์ปกติจนถึงสถานการณ์วิกฤตขั้นสูงสุด ส่งผลให้กำลังพลและยุทโธปกรณ์ของกองทัพเรือมีความพร้อมและมีขีดความสามารถไม่ยิ่งหย่อนกว่าชาติใดในภูมิภาค นำไปสู่การบรรลุตามวิสัยทัศน์ กองทัพเรือที่ว่า “เป็นหน่วยงานความมั่นคงทางทะเลที่มีบทบาทนำในภูมิภาค และเป็นเลิศในการบริหารจัดการ” สามารถส่งมอบคุณค่าให้กับประชาชนและสังคม “เป็นกองทัพเรือที่ประชาชนเชื่อมั่นและภาคภูมิใจ”


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน