ญาติร้อง ถูกยิงถล่มบ้าน กระสุนเจาะท้ายทอย-หัวใจ หนุ่มดับคาที่ เชื่อคนร้ายเป็นมืออาชีพ

เมื่อวันที่ 20 เม.ย. นางจำรัส ประเสริฐ อายุ 41 ปี พร้อมด้วย น.ส.สุกัญญา ประเสริฐ อายุ 34 ปี เข้าร้องทุกข์ว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 23.45 น. คืนวันที่ 19 เม.ย. มีคนร้ายใช้อาวุธปืนเข้ามายิงถล่มบ้านของนางจำรัส ขณะนั้นนายสุทัศน์ ประเสริฐ อายุ 23 ปี และนายไชยวัฒน์ รักษาเชื้อ อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของนางจำรัส และหลานของ น.ส.สุกัญญา ได้ร่วมกับเพื่อน ประมาณ 6 คน กำลังต้มไก่ทำอาหาร

ก่อนหน้านั้น นายสุทัศน์และนายไชยวัฒน์ ไปขึ้นศาลในข้อหาต่อสู้ขัดขวางการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ขณะปฏิบัติหน้าที่ แต่ตกลงค่าเสียหายกันได้ โดยฝ่ายผู้เสียหายเรียกร้องค่าเสียหาย จำนวน 460,000 บาท แต่ต่อรองเหลือ 100,000 บาท ปรากฏว่ามีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธปืนยิงถล่มเข้ามาในบ้าน

คาดว่าเป้าหมายคือ นายสุทัศน์ โดยกระสุนปืนนัดแรกเจาะเข้าที่ท้ายทอยของนายสุทัศน์ และนัดที่ 2 ยิงเข้าที่ด้านหลังบริเวณหัวใจ ทำให้นายสุทัศน์ล้มฟุบลง เสียชีวิตคาที่ ส่วนเพื่อนที่นั่งกินข้าวอยู่ด้วยกัน พากันวิ่งหนีตายชุลมุน หลังเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาสอบสวนที่เกิดเหตุแล้ว แต่เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากก่อนหน้านี้นายสุทัศน์กับนายไชยวัฒน์เคยมีเรื่องชกต่อยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจมาก่อน อีกทั้งก่อนหน้านี้มีคนร้ายเข้ามายิงถล่มบ้านที่เกิดเหตุถึง 2 ครั้ง และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ทำให้นายสุทัศน์เสียชีวิต

นายไชยวัฒน์ รักษาเชื้อ อายุ 20 ปี กล่าวว่า เมื่อช่วงเทศกาลลอยกระทงที่ผ่านมา ตนขี่รถจักรยานยนต์จะเข้าไปเที่ยวงานที่หนองกวางดีด อ.กันทรลักษ์ ซึ่งมีการจัดงานเทศกาลลอยกระทง ปรากฏว่าเจอด่านของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนขับรถหลบหนีไปที่บ้านจาน โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย ขับรถติดตามมาด้วย ตนได้ขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปที่บ้านพ่อ ที่บ้านจาน อ.กันทรลักษ์ ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตามมาทันที่บ้าน และมีปากเสียงกับนายสุทัศน์พี่ชายของตนที่เสียชีวิต

นายไชยวัฒน์ กล่าวอีกว่า จากนั้นนายสุทัศน์ได้ชกต่อยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุลมุน ขณะนั้นตนกับพี่ชายได้ยิงเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด จึงพากันวิ่งหลบหนี ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งความดำเนินคดีกับตน 2 ข้อหาข้างต้น ซึ่งมีการขึ้นศาลมาแล้ว 2 ครั้ง และเมื่อวันที่ 19 เม.ย.62 ขึ้นศาลอีกครั้ง สามารถตกลงกันได้ โดยพวกตนยินยอมชดใช้ค่าเสียหายให้กับฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ จำนวน 100,000 บาท โดยตกลงกันว่าจะจ่ายเงินภายในเวลา 2 เดือน จากนั้นพวกตนได้พากันกลับมาบ้าน โดยก่อนกลับบ้านมีคนมาเตือนว่าให้ระวังตัวให้ดี เพราะว่าอาจจะโดนเอาคืนได้

นายไชยวัฒน์ กล่าวต่อว่า เมื่อพวกตนกลับมาบ้าน แล้วมีเพื่อนมานั่งกินข้าวด้วยกัน กระทั่งมีคนร้ายตามมายิงใส่บ้านประมาณ 6 นัด ขณะนั้นนายสุทัศน์ลุกขึ้นมายืนเพื่อสูบบุหรี่ โดยมีนายณัฐวุฒิ งึดสันเที๊ยะ อายุ 17 ปี เพื่อนรุ่นน้องยืนอยู่ด้วย โดยคนร้ายแอบซุ่มอยู่ริมรั้ว ห่างจากจุดที่นายสุทัศน์ยืนสูบบุหรี่ ประมาณ 15 เมตร โดยยิงนายสุทัศน์นัดแรกเข้าที่ท้ายทอย และนัดที่ 2 ยิงเข้าที่หลังด้านซ้ายบริเวณหัวใจ ทำให้นายสุทัศน์ล้มฟุบลง ตนได้รีบวิ่งเข้าไปคร่อมร่างนายสุทัศน์เอาไว้ ขณะที่มือปืนยิงถล่มเข้ามาอีก ประมาณ 3-4 นัด ก่อนจะหลบหนีไป ตนกับเพื่อนได้รีบนำร่างของนายสุทัศน์ส่งไปยัง ร.พ.เบญจลักษ์ แต่นายสุทัศน์เสียชีวิตก่อนที่จะถึงโรงพยาบาล

“ผมกับพี่ชายไม่มีเคยเรื่องกับใครมาก่อน ยกเว้นมีเรื่องกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ชกต่อยกัน ทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งได้รับบาดเจ็บกรามร้าว การที่พี่ชายถูกยิงเสียชีวิตแบบนี้ ทำให้ผมและญาติพี่น้องเสียใจมาก แต่ไม่ทราบว่าคนร้ายเป็นใคร เพราะไม่เคยมีเรื่องราวกับใครอย่างรุนแรงมาก่อน คาดว่าเป็นฝีมือของคนมีสีมืออาชีพ เพราะยิงปืนได้อย่างแม่นยำ ขอเรียกร้องความเป็นธรรม ให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้ติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายจนถึงที่สุด เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เหมือนกับว่าบ้านเมืองไม่มีขื่อไม่มีแป อยากฆ่าใครก็ฆ่าอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง” นายไชยวัฒน์ กล่าว

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ทางด้าน น.ส.สุกัญญา ประเสริฐ อายุ 34 ปี อาของนายสุทัศน์ กล่าวว่า ปกตินายสุทัศน์เป็นคนสุภาพเรียบร้อย ไม่มีการสร้างปัญหาใดๆ กับใคร ตั้งใจทำงานหาเงินเพื่อส่งมาให้แม่ที่อาศัยอยู่กับน้องชายคือนายไชยวัฒน์ ซึ่งที่บ้านยึดอาชีพขายผลไม้เลี้ยงตนเองและครอบครัว ไม่คิดว่าการกลับมาเยี่ยมบ้านครั้งนี้ จะเป็นการพาหลานชายมาเสียชีวิต เพราะโดนยิงตายอย่างโหดเหี้ยม ตนขอเรียกร้องความเป็นธรรมในเรื่องนี้ไปยัง นายกรัฐมนตรี, ผบ.ตร. และ ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ เพื่อขอให้ติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุอย่างอุกอาจ มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยด่วนที่สุด เพื่อให้นายสุทัศน์ได้นอนตายตาหลับ


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน