วันที่ 24 เม.ย. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัด ม่วงขาวแก้วพิกุล ต.โคกปีบ อ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี หลังจากมีพระรูแหนึ่งโพสต์เฟซบุ๊ก “Monk Sompron Thawaro” เป็นภาพโต้ตอบข้อความในเฟซบุ๊ก พร้อมข้อความว่า “มีใครรู้จักคนนี้บ้าง เค้าบอกว่าเค้าลำบากมาก ช่วยตรวจสอบให้ที ว่าเค้าอยู่กินแบบไหน อยู่ที่ไหน นี่คือที่อยู่เขา 34/38 ซ.ราชอุทิศ 26 นี่คือเบอร์โทรเขา 0989473845 ชื่อของเขา นางสาวศรัญญา จี่เอี่ยม ใครรู้จักช่วยบอกทีว่า คนนี้มีตัวตนอยู่จริงหรือไม่ หรือใครอยู่ใกล้ช่วยไปตรวจสอบให้ที ที่แท็กไปนั่นคือเฟสเขา ช่วยกันทีนะ สาธุ…”

หลังจากสาวคนดังกล่าวทักเฟซบุ๊กมาขอยืมเงินพระรูปดังกล่าว พร้อมทั้งหมายเลขบัญชีธนาคาร โดยมีข้อความว่า “หนูลองหายืมไม่ได้เลยจ๊ะหลวงพี่ โอนให้ยืมทีนะคะ หลวงพี่จ๊ะ ตอนเช้าหลวงพี่โอนให้ทีนะคะ หนูหาไม่ได้เลยจ๊ะ หลวงพี่คะวันนี้หนูพาลูกไปมอบตัวมาแล้ว หนูเหลือตังค์ไม่พอซื้อของจ๊ะ หนูขอ 70 ได้มั๊ยคะ หลวงพี่คะหนูขอแค่นี้นะคะ ตังค์หนูไม่พอซื้อของมาขายจริงๆ จ๊ะ หลวงพี่ช่วยหนูทีได้มั๊ยคะ หนูไม่รู้จะทำอย่างไรแล้วคะ หนูต้องการหาเงินซื้อชุดนักเรียนอีก 3 ชุดจ๊ะ หนูไม่รู้ทำไงแล้วคะ วันนี้ก็หายืมพาลูกไปก็หามาได้เลย โรงเรียนใกล้เปิดเทอมแล้วจ๊ะ คิดไรไม่ออกเลยจ๊ะ ไม่มีทุนเลยจ๊ะ หลวงพี่หายืมให้หนูได้มั๊ยคะ เดี๋ยวหนูใช้ให้ก็ได้ หนูไม่มีทางหาได้แล้วจ๊ะหลวงพี่ หนูไม่รู้จะพึ่งใครแล้วจริงค่ะ”

เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปถึงวัด ก็พบกับ พระใบฎีกาสมพร ภาวโร เจ้าอาวาสวัดม่วงขาว โดยพระใบฎีกาสมพร ติดกิจนิมนต์ จึงได้ลงพื้นที่ติดตามไป กระทั่งพบพระใบฎีกาสมพร จึงได้สอบถามถึงเรื่องราวดังกล่าว ซึ่งพระใบฎีกาสมพร กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีโยมผู้หญิงดังกล่าว ได้โพสต์มาขอเงินโดยกล่าวอ้างว่าไม่มีเงินจะเลี้ยงดูครอบครัว โดยอาตมาได้โพสต์ ขอให้ช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงนั้น

ความเป็นมา ก่อนหน้านั้นประมาณปี 2559 เคยมีคนนำลูกมาทิ้งในห้องน้ำที่วัดม่วงขาวแก้วพิกุล และเป็นข่าวดังนำเสนอผ่านสื่อมวลชน ประกอบกับที่อาตมาเป็นผู้ทำกิจกรรมช่วยเหลือสังคม-ผู้ยากไร้ด้อยโอกาสมาตลอด ในโครงการแบ่งปันรอยยิ้มแด่น้องๆ จึงเป็นที่รู้จักและเผยแพร่ผ่านโลกออนไลน์

จากนั้นได้รู้จักกับบุคคลดังกล่าวผ่านทางโลกโซเชียล ทักมาขอให้ช่วยเหลือว่า เพิ่งออกจากคุกที่นครราชสีมา ไม่มีเงิน ไม่มีใครมาดูแลเลย จึงช่วยเหลือเงินค่ารถกลับ โอนให้จำนวน 300 บาท กลับมาบ้านบอกมาหางานทำช่วยหน่อยไม่มีค่ารถหน่อย และ ต่อมาได้ขอมาอีกหลายครั้ง ได้ช่วยเหลือด้วยเมตตาครั้งละ 60 บาทบ้าง 40 บาทบ้าง

แต่ต่อๆ มา ก็ยังขอมาไม่หยุดมาขอบ่อยๆ อาตมาเคยบอกว่าจะช่วยหาสถานสงเคราะห์ให้ หรืองานทำ แต่บุคคลดังกล่าวก็ยังขอไม่เลิก ให้เด็กโทรมาขอให้ช่วย และหนักขึ้นเรื่อยๆ จึงได้ตรวจสอบเพื่อนในเฟซบุ๊กบุคคลดังกล่าว พบว่ามีมากกว่า 3,000 คน จึงคิดว่าหากทำแบบนี้ และไปเที่ยวขอแบบนี้กับคนอื่นๆ คนละ 60 บาท 70 บาท 100 บาท จะได้เงินจำนวนมาก จึงขอให้หยุดการกระทำดังกล่าว ถ้าไม่หยุดจะประกาศลงเฟซบุ๊กให้มาตรวจสอบ แต่บุคคลดังกล่าวยังไม่ยอมหยุด ได้ทำการโพสต์ข้อความอ้างความยากลำบากต่างๆ ตามข้อความ จึงโพสต์ได้ให้สังคมพิจารณา ในส่วนตัวแล้ว ไม่คิดที่จะเอาเรื่องราวใดๆ

หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อไปที่ หมายเลขโทรศัพท์ดังกล่าว แต่ไม่สามารถติดต่อได้ เนื่องจากเครื่องถูกปิดไว้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน