จากกรณี นายพรหมปัญญา เกษหอม อายุ 40 ปี ถูกจับข้อหาเมาแล้วขับ ยอมติดคุกแทนค่าปรับ 6 พันบาท เนื่องจากฐานะยากจน ตั้งแต่วันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา และถูกส่งไปคุมขังอยู่ในเรือนจำศรีสะเกษ ต่อมาปรากฎว่าถูกรุมทำร้ายเสียชีวิต โดยเรือนจำแจ้งให้ครอบครัวทราบเมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา ก่อนที่จะออกหมายจับผู้ต้องหาได้ 1 ราย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 26 เม.ย. ที่เรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ นางสุรินทร์ เกษหอม อายุ 62 ปี แม่ของนายพรหมปัญญา และ นางเทวรรณ์ แสนสะอาด ผู้ใหญ่บ้านนิคมหนองฉลอง หมู่ 9 พร้อมด้วยญาติพี่น้อง ได้เดินทางมาพบกับ นายอุทัย ทัพอาสา ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อขอดูภาพในกล้องวงจรปิดของสถานกักขัง จ.ศรีสะเกษ ที่บันทึกภาพเหตุการณ์วันเกิดเหตุในคืนวันที่ 17 เม.ย.เอาไว้ เนื่องจากว่าแม่และญาติพี่น้องทุกคนติดใจว่า เพราะเหตุใดนายพรหมปัญญา จึงได้ถูกรุมทำร้ายร่างกายจนทำให้เสียชีวิต ซึ่งนายอุทัย ได้ชี้แจงให้แม่ของนายพรหมปัญญากับญาติทุกคนทราบว่า ขณะนี้คณะกรรมการสอบสวนของกรมราชทัณฑ์ กำลังดำเนินการสอบสวนในเรื่องนี้ และทราบสาเหตุของการทะเลาะวิวาทกันในเรื่องนี้แล้ว โดยเป็นการรุมทำร้ายร่างกายของนายพรหมปัญญาจนทำให้นายพรหมปัญญาเสียชีวิตดังกล่าว

นายอุทัย กล่าวว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้ดำเนินการสอบสวนคดีนี้และได้มีการออกหมายจับผู้ต้องหาไปแล้ว 4 รายด้วยกัน ประกอบด้วย นายสามารถ มีคุณ, นายวสันต์ วงศ์สุวรรณ, นายสุพรรณ อนุสรณ์ และนายอมรณัฐ นวลเท่า ซึ่งผู้ต้องหาทุกรายเป็นเพื่อนผู้ต้องขังด้วยกัน ขณะนี้ได้นำตัวผู้ต้องหาที่ถูกหมายจับแยกมาขังไว้ที่เรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อป้องกันการข่มขู่พยานที่อยู่ในห้องกักขังเดียวกัน และพนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทุกรายตามกฎหมายต่อไปแล้ว

นายอุทัย กล่าวอีกว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้กรุณาจัดสรรงบประมาณมาให้เรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 150,000 บาท เพื่อใช้ในการปรับปรุงต่อเติมสถานกักขัง โดยตนได้จัดสร้างห้องขังแยกผู้ต้องขังที่เป็นพวกติดสุราเรื้อรังออกจากผู้ต้องขังคนอื่น เนื่องจากว่าผู้ต้องขังกลุ่มนี้เป็นพวกจิตใจแปรปรวนได้ง่าย และมักจะมีเรื่องราวทะเลาะวิวาทกันในห้องกักขังเป็นประจำอยู่เสมอ ส่วนนายพรหมปัญญา นั้น ตนจะได้ประสานงานกับหน่วยเหนือเพื่อพิจารณาให้การช่วยเหลือเยียวยาตามระเบียบของทางราชการต่อไป

ด้าน นางสุรินทร์ กล่าวว่า เมื่อได้รับฟังการชี้แจงจากผู้บัญชาการเรือนจำแล้ว ตนและญาติพี่น้องทุกคนมีความพอใจแล้ว และไม่ต้องการที่จะดูกล้องวงจรปิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกต่อไป ต้องขอขอบคุณท่านอธิบดีกรมราชทัณฑ์ พล.ต.ต.สุรเดช เด่นธรรม ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ และผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ให้การช่วยเหลือจนทำให้การติดตามจับกุมคนร้ายที่รุมฆ่าลูกของตนได้ทั้งหมดทุกคน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน