เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 29 เม.ย. ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง (ชปพ.ปค.) ร่วมกับ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และองค์กรพัฒนาเอกชนระหว่างประเทศ OUR บุกเข้าช่วยเหลือหญิงสาวชาวลาว ที่ถูกนำมาค้าประเวณีในสถานบริการชายแดนไทย-มาเลเซีย กลางเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส

สืบเนื่องจากองค์กรพัฒนาเอกชน (NGO) OUR ได้แจ้งเบาะแสให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ และชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ทราบว่ามีการนำหญิงชาวลาวเข้ามาค้าประเวณีที่ร้านอย่าอิจฉา อ.เชียงคาน จ.หนองคาย ซึ่งชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองได้ร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ เข้าสืบสวนจับกุมผู้ประกอบการร้านอย่าอิจฉา และช่วยเหลือหญิงชาวลาวได้ 10 คน เมื่อวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนขยายผลจนทราบว่า เด็กสาวชาวลาวที่เคยทำงานอยู่ที่ร้านอย่าอิจฉา ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าจับกุม ได้ถูกนำพามาค้าประเวณีอยู่ที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง จึงได้ร่วมกันกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ และองค์กรพัฒนาเอกชนระหว่างประเทศ OUR ทำการสืบสวนวางแผนให้ความช่วยเหลือ

กระทั่งช่วงค่ำวันนี้ (29 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง นำโดย นายมานะ สิมมา ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านกฎหมาย นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้อำนวยการส่วนกำกับ สืบสวนและปราบปราม สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง และเจ้าหน้าที่ DSI นำโดย พ.ต.ต.มิตร พรหมมา ผู้อำนวยการส่วนคดีการค้ามนุษย์ ได้ร่วมบูรณาการกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอสุไหงโก-ลก นำโดยนายปรีชา นวลน้อย นายอำเภอสุไหงโก-ลก และตำรวจสภ.สุไหงโก-ลก เข้าตรวจสอบสถานบริการชื่อรีแลคผับ ซึ่งตั้งอยู่กลางตัวเมืองสุไหงโก-ลก

โดยในร้านดังกล่าวเปิดเป็นร้านคาราโอเกะ แต่ลูกค้าสามารถซื้อหญิงบริการออกไปร่วมประเวณีที่โรงแรมใกล้เคียงได้ โดยหากร่วมประเวณี 1 ชั่วโมงราคา 1,500 บาท ทางร้านจะได้รับส่วนแบ่งจำนวน 750 บาทต่อครั้งต่อคน หากค้างคืน ราคา 3,000 บาท ทางร้านจะได้รับส่วนแบ่งจำนวน 800 บาทต่อครัังต่อคน แต่หญิงบริการจะได้รับค่าตัวตอนช่วงสิ้นเดือน

ขณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบภายในร้าน พบหญิงสาวชาวลาวทำงานอยู่ภายในร้านจำนวนทั้งสิ้น 12 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้นำตัวหญิงสาวชาวลาวทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองและคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์โดยทีมสหวิชาชีพ เนื่องจากเจ้าหน้าที่มีเบาะแสว่าเด็กสาวชาวลาวจำนวน 2 คนที่ทำงานอยู่ในร้านนี้มีอายุต่ำกว่า 18 ปี

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ประกอบการและผู้ที่เกี่ยวข้องได้แก่เจ้าของร้าน ผู้จัดการดูแลร้าน จำนวน 4 คน ในข้อหา ร่วมกันเป็นธุระจัดหาให้มีการค้าประเวณี, เป็นเจ้าของสถานการค้าประเวณี, ตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต และ รับคนต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตทำงานเข้าทำงาน

ซึ่งหากผลการตรวจอายุกระดูกของหญิงบริการออกมาว่าอายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ เจ้าหน้าที่จะได้พิจารณาร้องทุกข์กล่าวโทษเพิ่มเติมให้มีการดำเนินคดีกับผู้ประกอบการในข้อหาร่วมกันค้ามนุษย์ต่อไป ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะได้ร่วมกันทำการสืบสวนขยายผลเชื่อมโยงไปถึงขบวนการนำพาหญิงสาวชาวต่างด้าวเข้าสู่ประเทศไทย ซึ่งหากพบหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงบุคคลใดเจ้าหน้าที่จะได้พิจารณาดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกราย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน