“มูลนิธิปวีณาฯ” รุดช่วยสาววัย 16 ถูก ล่ามโซ่ ตาเล่าปมเหตุ พ่อแม่หลานเลิกกัน เลยรับมาเลี้ยง พอโตนิสัยเปลี่ยน ติดเพื่อน ยุ่งเกี่ยวยาเสพติด เลิกเรียนตอน ม.2 ชอบหนีออกจากบ้าน หลานยอมรับเรื่องจริง ไม่โกรธ ยังรัก ตา-ยายเหมือนเดิม

ล่ามโซ่ วันที่ 28 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา น.ส.สวย (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ร้องทุกข์มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เพื่อขอความช่วยเหลือ น.ส.โบว์ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี เพื่อนสนิท ถูกตา-ยายล่ามโซ่ขังไว้ภายในบ้านพักพื้นที่ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ไม่สามารถออกไปไหนได้ โดย น.ส.โบว์ ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปตัวเองในสภาพขาซ้ายถูกโซ่ล่ามไว้กับขาเตียง ส่งมาให้ดูเมื่อเช้านี้ ขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือด้วย

หลังรับเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสาน น.ส.พัทธ์ธีรา ขุนชะ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนครพนม ส่งเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กฯ นครพนม นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือ น.ส.โบว์ ทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงที่บ้านดังกล่าว พบ น.ส.โบว์ อยู่ในห้องนอน โดยที่ขาข้างซ้ายมีโซ่ล่ามไว้กับขาเตียง ตามร่างกายไม่มีร่องรอยถูกทำร้าย จึงได้ขอให้คนในบ้านช่วยกันเอาโซ่ออก จากการสอบถาม ตาของ น.ส.โบว์ อายุ 84 ปี และยาย อายุ 90 ปี ที่เป็นผู้ปกครอง เล่าว่า น.ส.โบว์ เป็นลูกคนเดียว พ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่ยังเล็ก ตา-ยายจึงดูแลมาตลอด โดยมีญาติที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงคอยให้ความช่วยเหลือ ตอนเด็กๆ น.ส.โบว์ เป็นเด็กเลี้ยงง่าย เชื่อฟังผู้ใหญ่ ร่าเริงแจ่มใส แต่พอเป็นวัยรุ่นเปลี่ยนไปติดเพื่อนและคบเพื่อนชายหลายคน อารมณ์รุนแรง เคยทำร้ายตัวเอง เสพยาเสพติด หนีออกจากบ้าน และเลิกเรียนกลางคันตอนอยู่ ม.2

“หลังติดตามหลานกลับมาได้ก็พาไปรักษาด้านจิตเวช ตั้งแต่เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ปัจจุบันยังกินยาและอยู่ในกระบวนการบำบัดรักษา อารมณ์จะขึ้นๆ ลงๆ ที่จำเป็นต้องล่ามโซ่หลานเพราะกลัวว่าจะหนีออกจากบ้านไปเป็นอันตราย เมื่อหลานอารมณ์เย็นลงก็จะปล่อยเป็นอิสระ โดยการควบคุมดูแลได้ปรึกษาแพทย์อยู่ตลอด และถึงจะล่ามโซ่ไว้แต่หลานก็มีโทรศัพท์มือถือใช้อยู่ตลอดเวลา” ตาของ น.ส.โบว์ กล่าว

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้สอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น โดย น.ส.โบว์ ยอมรับว่าตัวเองชอบหนีเที่ยวจริง และที่ติดต่อเพื่อนขอความช่วยเหลือเพราะไม่อยากอยู่บ้าน เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ยังรักตา-ยายเหมือนเดิม ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้เชิญตา-ยายและญาติทุกคน พร้อมทั้ง น.ส.โบว์ มาประชุมร่วมกันเพื่อหาวิธีการปรับพฤติกรรมของ น.ส.โบว์ ซึ่งญาติก็จะไม่มีการล่ามโซ่ น.ส.โบว์ อีก โดยทุกคนจะร่วมกันดูแล น.ส.โบว์ อย่างใกล้ชิด และฝ่ายปกครองในชุมชนจะช่วยสอดส่องพฤติกรรมและเฝ้าระวังความปลอดภัยช่วยเหลือกรณีฉุกเฉิน ซึ่งทางมูลนิธิปวีณาฯ จะได้ติดตามความคืบหน้าต่อไป

ที่มาเฟซบุ๊กเพจ มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน