วันที่ 7 มิ.ย. ที่บ้านสเนพ่อง หมู่ 1 ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี นายปกรณ์ กรรณวัลลี นายอำเภอสังขละบุรี จ.กาญจนบุรี พร้อมด้วย นายสมชาย วุฒิพิมลวิทยา นายก อบต.ไล่โว่ ได้มาร่วมกิจกรรมทำความสะอาดคลองและลำน้ำสาธารณะ ตามโครงการคลองสวย น้ำใส ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2562 โดยมีผู้นำชุมชน ประชาชน และจิตอาสาพระราชทาน เข้าร่วมกันกำจัดวัชพืชทำความสะอาดลำคลอง ก่อนเข้าสู่ฤดูฝน พร้อมทั้งทำความสะอาดถนนภายในหมู่บ้าน

ต่อจากนั้น นายปกรณ์ และ นายสมชาย ได้เดินทางไปดูต้นทุเรียนของ นายหยี่ซองเจ้ง สังขเพลินไพร อายุ 77 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 หมู่ 1 บ้านสะเนพ่อง ต.ไล่โว่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นต้นทุเรียนที่มีอายุกว่า 100 ปี ปลูกไว้กลางป่าห่างจากหมู่บ้านกว่า 3 กิโลเมตร โดยพื้นที่ที่ปลูกอยู่บริเวณพื้นที่ราบกลางหุบเขา และเป็นพื้นที่ต้นน้ำชื่อลำห้วยปุปุ ที่ชาวบ้านนำน้ำมาผลิตเป็นน้ำประปาในหมู่บ้าน

ซึ่งเส้นทางเดินมีความยากลำบาก เนื่องจากต้องปีนเขาขึ้นไป เมื่อไปถึงพบต้นทุเรียนขนาดใหญ่จำนวนกว่า 10 ต้น ที่ปลูกกระจัดกระจายอยู่ในพื้นที่ประมาณ 5 ไร่ โดยมีทุเรียนต้นหนึ่งซึ่งมีความสูงกว่า 25 เมตร มีลำต้นใหญ่กว่า 2 คนโอบ บนต้นมีผลทุเรียนจำนวนหลาย 10 ลูก

นายหยี่ซองเจ้ง เล่าให้ฟังว่า ทุเรียนต้นนี้เป็นต้นพันธุ์ที่ปลูกโดยคุณพ่อของตน ซึ่งมีอายุกว่า 100 ปีแล้ว ตนโตขึ้นมาก็พบทุเรียนต้นนี้แล้ว เมื่อก่อนทุเรียนต้นนี้ให้ผลดกมากถึง 300-400 ลูก ที่สำคัญเมื่อสุกจะมีลูกสีแดง รสชาดหวาน มัน เนื้อหนา เม็ดเล็ก

ส่วนสาเหตุที่คุณพ่อมาปลูกทุเรียนในซอกเขาแห่งนี้ เนื่องจากในอดีตบ้านสเนพ่อง นิยมเลี้ยงควาย โดยการปล่อยให้หากินตามธรรมชาติ การจะปลูกต้นผลไม้ก็มักจะถูกควายทำลาย คุณพ่อจึงมาทำสวนและปลูกทุเรียนที่นี่เนื่องจาก สัตว์เลี้ยงและควายไม่สามารปีนเขาขึ้นมาได้ ตอนสมัยที่ตนยังแข็งแรง เวลาที่ทุเรียนสุก ตนจะนำทุเรียนใส่แพ ล่องลงไปขายที่ตัวเมืองสังขละบุรี คนที่เคยกินจะติดอก ติดใจ ถามหาโดยเฉพาะข้าราชการที่มาทำงานในสังขละบุรีเมื่อ 40 ปีก่อน จะรู้จักทุเรียนของตนเองดี

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ด้าน นายปกรณ์ เปิดเผยหลังจากได้ชิมทุเรียนแล้วว่า รสชาติดีมาก หวาน มัน เนื้อหนา เม็ดเล็ก ในอนาคตหากมีการส่งเสริมคิดว่าจะเป็นทุเรียนที่มีชื่อเสียงอย่างแน่นอน โดยตนจะมอบหมายให้เกษตรอำเภอสังขละบุรี เข้ามาศึกษาข้อมูลและทำการขยายพันธุ์เพื่อส่งเสริมให้ชาวบ้านปลูก เพื่อจำหน่ายและอนุรักษ์สายพันธุ์ทุเรียนต้นนี้ต่อไป พร้อมจะตั้งชื่อให้ว่า ทุเรียนสะเนพ่อง เพื่อเป็นเกียรติแก่ นายหยี่ซองเจ้ง และหมู่บ้านสะเนพ่อง ต่อไป

ส่วน นายสมชาย กล่าวว่า ทุเรียนต้นนี้ ถือว่าเป็นต้นพันธุ์ที่ดีมาก สังเกตจากต้นที่มีอายุกว่า 100 ปีแล้ว แต่ผิวดี ไร้แมลงรบกวน อีกทั้งมีผลใหญ่ พูสวย เนื้อหนา เมล็ดลีบ นับเป็นสายพันธุ์ดี ที่หาได้ยากมาก มีความเหมาะสมที่จะนำมาขยายพันธุ์ โดย อบต.จะส่งเสริมให้ชาวบ้านสะเนพ่องปลูกเพื่อสร้างรายได้ โดนตนในฐานะที่อยู่กับวงการทุนเรียนมากว่า 30 ปี ฟันธง ทุเรียนป่าบ้านสะเนพ่อง ดังระเบิดแน่นอนในอนาคต

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน