จบดราม่าริมสองฝั่งโขง 2หนุ่มไทย รุมตีโจ๋ลาว คดีพลิก! พี่สาวโร่ขอโทษ น้องขาดยา
วันที่ 7 มิ.ย. พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผกก.สภ.เมืองหนองคาย สั่งการให้ ฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองหนองคาย ตรวจสอบบริเวณศาลารอรถ หน้าร้านสะดวกซื้อ ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 อ.เมือง จ.หนองคาย หลังจากที่โลกโซเชียลริมสองฝั่งโขง ไทยและสปป.ลาว มีการวิพากษ์วิจารณ์ กรณีคลิปเหตุการณ์ ชายไทยวัยกลางคน 2 ราย รุมทำร้าย วัยรุ่นชาว สปป.ลาว พร้อมทั้ง ให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และ ตม.หนองคาย ติดตามตัวคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาสอบถามข้อเท็จจริง ตามเหตุการณ์ในคลิปภาพที่ปรากฏ
จากการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่พบ นายจตุพร นิตะวัน อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 หมู่ 3 ต.มีชัย อ.เมือง จ.หนองคาย และนายภาคิน บุญชูวงศ์ อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ 4 ต.กวนวัน อ.เมือง จ.หนองคาย 2 ชายไทยที่อยู่ในคลิป ส่วนวัยรุ่น ชาวสปป.ลาว คือ นายโด อินทะจัก อายุ 18 ปี ชาวเมืองสะหวันนะเขต
จากการสอบถาม นายโด ทราบว่า ได้เข้ามาทำงานในประเทศไทย โดยทำงานที่โรงน้ำแข็งกับพี่สาว ที่ จ.สมุทรปราการ และได้มาที่ จ.หนองคาย จนเมื่อเวลา 09.00 น. ของวันนี้ ขณะที่กินข้าวอยู่ คู่กรณีทั้งสองคน มาบอกว่าให้ตนกินเสร็จแล้วให้เก็บกล่องไปทิ้ง แล้วมาทำร้ายร่างกายตนเองจนมีแผลตามตัว
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
ขณะที่ นายภาคิ กล่าวว่า นายโด ได้มาอาศัยอยู่ที่ศาลารอรถ หน้าร้านสะดวกซื้อ หน้าด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 โดยไม่มีใครดูแล มีเสื้อผ้าติดตัวอยู่แค่ชุดเดียว ไม่มีเงิน พวกตนซึ่งอยู่ละแวกนั้นเห็นแล้วสงสาร จึงหาข้าวหาน้ำให้กิน เป็นเช่นนี้มา 3 สัปดาห์แล้ว แต่พอวันนี้ นายจตุพร เอาข้าวกล่องมาให้นายโด กินเช่นเคย และบอกว่ากินแล้วให้เก็บกล่องไปทิ้งถังขยะด้วย จู่ ๆ นายโดก็ไม่พอใจ ลุกขึ้นมาชกตนที่ศีรษะ 2 ครั้ง
ขณะนั้นมีทั้งคนไทยและสปป.ลาวอยู่ภายในศาลาและใกล้เคียง ตนโมโหที่ทำดีด้วยแต่กลับถูกนายโดทำร้าย จึงได้ชกนายโด ส่วนนายภาคินเห็นนายโด ทำร้ายตนก็เข้ามาช่วย คาดว่ามีผู้เห็นเหตุการณ์จึงหยิบโทรศัพท์มาถ่ายคลิป แต่ไม่ได้ถ่ายตั้งแต่ต้น ทำให้ภาพที่ออกมาดูเหมือนคนไทยรุมทำร้าย ขอยืนยันว่าพวกตนถูกทำร้ายร่างกายก่อน
ด้าน พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผกก.สภ.เมืองหนองคาย กล่าวว่า จากการติดต่อพี่สาวของนายโด ทราบว่า นายโด มีอาการทางจิต ต้องกินยาอย่างต่อเนื่อง แต่นายโด ขาดยามาหลายเดือนแล้ว และหนีออกจากที่ทำงานจะกลับประเทศลาว จนทราบว่าเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น พี่สาวนายโดทราบเรื่องแล้วและเดินทางมาหาน้องชายก่อนจะพากลับประเทศ และยังฝากขอโทษคนไทยทั้งสองคนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย โดยประเด็นนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนเพราะอาจกระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทย กับ สปป.ลาว จึงอยากชี้แจงเหตุการณ์ข้อเท็จจริงให้ทุกคนได้ทราบด้วย
