วันที่ 11 มิ.ย. ที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 3 จังหวัดนครราชสีมา พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. เดินทางมาประชุมตติดตามเร่งรัดการสืบสวนสอบสวนกรณีพบอาวุธสงครามในพื้นที่รับผิดชอบของตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ และสุรินทร์ โดยมี พล.ต.ท.พูนทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.3 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุภากร คำสิงห์นอก รอง ผบช.ภ.3, พ.ต.อ.อัทธชนม์ ช่วงงาม รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ, พ.ต.อ.สุจริต ปานเล็ก รอง ผบก.ภ.จว.สุรินทร์ และนายตำรวจที่เกี่ยวข้องร่วมรายงานความคืบหน้าผลการสืบสวนสอบสวน
พล.ต.ท.พูนทรัพย์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อาวุธสงครามอยู่ในลำห้วยกะมด บ้านขนุนเหนือ หมู่ 15 ต.โสน อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ประกอบด้วย จรวดต่อสู้รถถัง (ชนิด PG2) รวม 62 ลูก ดินส่งต่อสู้รถถัง (ชนิด PG2) 56 แท่ง ลูกระเบิดชนิดเอ็ม 79 (ขนาด 40 มม.) 70 ลูก กระสุนขนาด 7.62 จำนวน 4 ลัง รวม 2,800 นัด ดินขยายการระเบิดจรวดต่อสู้รถถัง (ชนิด PG2) 1 ลัง 48 นัด ซองบรรจุกระสุนปืน AK-47 (อาก้า) 30 ซอง ขวดพลาสติกแบบฝาเกลียว 10 ขวด ถุงกระสอบ 8 ถุง และถุงมือ 1 ข้าง
ต่อมาเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ พบอาวุธสงครามซุกซ่อนอยู่ในพื้นที่ ต.สะเดา อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ ประกอบด้วย อาวุธปืน AK-47 16 กระบอก ซองบรรจุกระสุนปืน 130 ซอง ขวดพลาสติกสีเขียว 18 ขวด และถุงกระสอบปุ๋ย 4 ถุง
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้วิเคราะห์พร้อมเชื่อมโยงข้อมูลการเกิดเหตุในพื้นที่ กทม. ที่ใช้ระเบิดยิงแบบเอ็ม 79 และจรวดอาร์พีจี โดยเกี่ยวข้องกับการชุมนุมทางการเมืองช่วงระหว่างปี 2553-2557 พบระเบิดยิง M 79 ปี 2553 จำนวน 26 เรื่อง ปี 2557 จำนวน 28 เรื่อง มีเหตุการณ์สำคัญดังนี้ วันที่ 6 เม.ย.53 ที่ลานจอดรถที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ วันที่ 10 เม.ย.53 ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 22 เม.ย.53 ที่สถานีรถไฟฟ้าศาลาแดง วันที่ 14-20 พ.ค.53 โรงแรมดุสิตธานี วันที่ 14 ก.พ.57 ที่บริเวณด้านหน้าศาลอาญา วันที่ 23 ก.พ.57 บริเวณด้านหน้าศาลอุทธรณ์และถนนราชดำริ หน้าห้างบิ๊กซี วันที่ 24 และ วันที่ 27 มี.ค.57 สำนักงาน ปปช. วันที่ 24 เม.ย.57 ศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะการใช้กระสุนปืนขนาด 7.62 มม. จำนวน 5 ครั้ง เหตุเกิดปี 2556 จำนวน 3 ครั้ง และปี 2557 จำนวน 2 ครั้ง
โดยเหตุสำคัญในวันที่ 1 ก.พ.57 เหตุปะทะของผู้ชุมนุมที่บริเวณแยกหลักสี่ ไอทีสแควร์ และการใช้จรวดอาร์พีจี วันที่ 20 มี.ค.53 ปากซอยแพ่งภูธรยิงไปทางกระทรวงกลาโหมหรือวัดพระศรีรัตนศาสดาราม แต่พลาดถูกสายไฟ และในวันที่ 20 พ.ค. ยิงโรงแรมดุสิตธานี ในการตรวจสอบหมายเลขงาน ระบุลูกระเบิดยิงขนาด 40 มม. (เอ็ม 79) ที่ตรวจยึดในครั้งนี้มีหมายเลขงานตรงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาแล้วดังนี้ วันที่ 21 ม.ค.53 ตรวจยึดจากห้องพักและรถยนต์ของ จ.ส.อ.ณัฎสิทธิ์ สุวรรณราช ม.พัน 3 รอ. วันที่ 27 มี.ค.53 บริเวณริมทางเท้าถนนนวมินทร์ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม.
วันที่ 10 ก.ค.57 ตรวจยึดภายในห้องเลขที่ 402/24 ชั้น 2 อาคาร 14 ศรีไทยคอนโด ซอยประชาอุทิศ 33 แยก 6 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กทม. ท้องที่ สน.ราษฎร์บูรณะ วันที่ 28 พ.ย.60 ตรวจยึดบริเวณริมบ่อบัว หมู่ 15 ต.ฉิมพลี อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ท้องที่ สภ.ฉิมพลี จรวดต่อสู้รถถัง (PG2) ที่ตรวจยึดในครั้งนี้มีหมายเลขงานตรงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น วันที่ 7 ต.ค.53 ตรวจยึดการห้องเช่าเลขที่ 566/249 ซอยกิจพานิช ถนนพระราม 4 แขวงมหาพฤฒาราม เขตบางรัก กทม. ผู้ต้องหานายสุขสันต์ รังวิเรนทร์
วันที่ 19 มิ.ย.57 ตรวจยึดบริเวณริมถนนกาญจนาภิเษก เลียบด่วนบางประอิน-บางนา กม.ที่ 38 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. ท้องที่ สน.คันนายาว วันที่ 10 ก.ค.57 ตรวจยึดภายในห้องเลขที่ 402/24 ชั้น 2 อาคาร 14 ศรีไทยคอนโด ซอยประชาอุทิศ 33 แยก 6 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กทม. ท้องที่ สน.ราษฎร์บูรณะ วันที่ 22 ธ.ค.57 ตรวจยึดบริเวณริมถนนเลียบทางด่วนจตุโชติ ตัดทางด่วนกาญจนาภิเษก แขวงคลองสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กทม. ท้องที่ สน.คันนายาว ส่วนอาวุธปืนเล็กกลขนาด 7.62 มม. พบเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมทางการเมือง วันที่ 20 พ.ค.57 ยึดอาวุธปืนอาก้าได้หลังการชุมนุมทางการเมืองบริเวณถนนอักษะ วันที่ 22 พ.ค.57 ยึดจากที่พักผู้ชุมนุมกลุ่ม นปช. ที่ห้องเช่า เลขที่ 79/10 หมู่ 3 ต.สวนหลวง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ซึ่งเชื่อมโยงการก่อเหตุการณ์ชุมนุมของกลุ่ม กปปส.ที่เขาสมิง จ.ตราด วันที่ 17 ส.ค.59 ตรวจยึดอาวุธปืนอาก้าจาก นายสมศักดิ์ ดิษปรีชา ซึ่งเป็น 1 ใน 15 ของกลุ่ม นปช.
ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า อาวุธสงครามที่พบตั้งข้อสงสัยไว้หลายประเด็น และยังไม่อยากระบุว่าเกี่ยวโยงกับกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองหรือไม่ เพราะอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนอยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 กำลังทำการตรวจสอบจากลายนิ้วมือ และดีเอ็นเอที่พบอยู่กับอาวุธสงคราม เบื้องต้นมีผู้ต้องสงสัยแล้ว 1 ราย เป็นอดีตข้าราชการตำรวจ ในเขตบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ปัจจุบันมีอาชีพค้าไม้เถื่อน
ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งมาว่าต้องจับตัวมาให้ได้โดยเร็ว ดังนั้นตนก็มั่นใจว่าจะสามารถจับตัวได้แน่นอน โดยจะระดมเจ้าหน้าที่ ทั้งตำรวจ ทหาร และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ทำงานร่วมกันอย่างเต็มที่ แต่การจะจับใครมั่วไม่ได้ เพราะการครอบครองอาวุธสงครามมากมายขนาดนี้ ผู้กระทำผิดมีโทษถึงประหารชีวิต ดังนั้นต้องมีพยานและหลักฐานที่ชัดเจนเพื่อขอหมายศาลออกหมายจับตามขั้นตอนทางกฎหมาย ส่วนอาวุธสงครามที่พบนั้นก็มีลักษณะเดียวกันกับอาวุธที่ใช้ก่อความไม่สงบของกลุ่มเสื้อแดง แต่จะเกี่ยวข้องหรือไม่นั้น ต้องรอผลตรวจดีเอ็นเอก่อน ซึ่งจะทราบผลภายใน 3 วันนี้ แต่เชื่อว่าต้องทำเป็นขบวนการหลายคน เพราะอาวุธมากมายขนาดนี้แบกคนเดียวคงไม่ไหวแน่ และทั้ง 2 จุดที่พบอาวุธสงคราม ก็เกี่ยวโยงกันทั้งหมด
