พิตบูล 2 ตัว รุมขย้ำ ด.ช.วัย 11 ปากฉีก-แผลเหวอะเย็บ 17 เข็ม เผยนั่งเล่นมือถืออยู่ จู่ๆ วิ่งเข้ามากระโจนใส่ พยายามมุดรถหนีแต่ไม่รอด แม่ไม่มั่นใจจะได้เยียวยาตามที่เจ้าของรับปากไว้

พิตบูล วันที่ 17 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุสุนัขพันธุ์พิตบูล 2 ตัว ของร้านอาหารแห่งหนึ่ง ใน ต.ป่าตัน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ไล่กัดและขย้ำเด็กชายอายุ 11 ปี จนได้รับบาดเจ็บหนัก เป็นแผลฉีกขาดที่บริเวณปาก รวมทั้งตามจุดต่างๆ ทั่วร่างกายอีกหลายแผล ต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลและเย็บ 17 เข็ม เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งทางผู้ปกครองของเด็กชาย มีความกังวลว่าเจ้าของสุนัขอาจจะไม่รับผิดชอบ เพราะเพิ่งจ่ายเงินค่ารักษาให้เบื้องต้นเพียง 3,000 บาทเท่านั้น ขณะที่ค่ารักษาพยาบาลที่จ่ายไปแล้วมากกว่า 14,000 บาท

จากกการตรวจสอบทราบว่า เด็กชายที่ประสบเหตุเป็นลูกของ นางนาน ส่วย จ่า อายุ 51 ปี แรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา ซึ่งเป็นคนงานก่อสร้าง โดย ด.ช.เอ (นามสมมติ) ซึ่งเป็นผู้ประสบเหตุ ที่ยังอยู่ในอาการหวาดผวา เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุกำลังนั่งเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ในเพิงพักคนงานไม่ห่างจากจุดที่แม่และคนงานกำลังทำงานกัน จู่ๆ มีสุนัขวิ่งมาจากด้านหลังกัดเข้าที่แขนขวา

ด้วยความเจ็บปวดและตกใจกลัว จึงพยามหลบหนีด้วยการจะมุดเข้าไปหลบใต้รถยนต์ที่จอดอยู่ใกล้ๆ แต่เข้าไปไม่ได้ ทำให้ถูกสุนัขทั้ง 2 ตัวรุมกัด จนเป็นแผลทั่วร่างกาย จากนั้นเพื่อนบ้านที่เห็นเหตุการณ์ได้รีบเข้ามาช่วยเหลือ ไล่สุนัขไปและนำตัวตนส่งโรงพยาบาล โดยเวลานี้แม้อาการจะดีขึ้นแต่ยังคงเจ็บแผลทั่วทั้งร่างกาย ขณะเดียวกันยอมรับว่ายังหวาดกลัวและหวาดผวาอย่างมากจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากนี้ไม่กล้าเข้าใกล้สุนัขและจะไม่ออกจากบ้านไปอยู่ใกล้เคียงร้านที่เป็นเจ้าของสุนัขที่กัดตนอย่างแน่นอน โดยหากเป็นไปได้อยากให้นำไปอยู่ที่อื่น

ขณะที่ นางนาน ส่วย จ่า เปิดเผยว่า ตนเป็นคนงานก่อสร้างของโครงการและพักอยู่ในแคมป์คนงาน ช่วงเกิดเหตุกำลังทำงานอยู่โซนทางด้านหลังของโครงการ ส่วนลูกชายนั่งเล่นโทรศัพท์มือถือในเพิงพักคนงานไม่ห่างกัน จู่ๆ สุนัข 2 ตัว ที่ไม่ทราบว่ามาจากทางใดได้พุ่งเข้ากัดลูกชาย เพื่อนคนงานที่เห็นเหตุการณ์ได้รับเข้าช่วยเหลือแล้วรีบพาลูกชายที่มีบาดแผลและเลือดท่วมตัวส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลทันที

ทั้งนี้ลูกชายได้รับการรักษาด้วยการเย็บแผลที่เกิดจากการถูกขย้ำทั่วร่างกาย โดยเฉพาะแผลฉีกขาดที่ปาก รวมแล้วหลายสิบเข็ม ต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย. และเพิ่งได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้ในวันนี้ แต่ยังคงต้องไปเข้ารับการรักษาต่อเนื่อง และน่าจะมีค่าใช้จ่ายต่างๆ อีกเป็นจำนวนมาก

เบื้องต้นทางคู่กรณีที่เป็นเจ้าของสุนัข ได้ให้การช่วยเหลือด้วยการมอบเงินให้ 3,000 บาท และไปจ่ายค่ารักษาพยาบาลประมาณ 20,000 บาท ที่โรงพยาบาลให้แล้ว รวมทั้งรับปากว่าจะจ่ายเงินค่าทำขวัญให้อีกจำนวนหนึ่ง อย่างไรก็ตามยอมรับว่าไม่มั่นใจเท่าใดนักว่าจะได้รับการช่วยเหลือเยียวยาตามที่ตกลง ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้ว แต่ยังไม่ได้แจ้งความดำเนินคดี

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ส่วนอาการของลูกชายนั้น นอกจากสภาพบาดแผลทั่วร่างกายแล้ว ขณะนี้สภาพจิตใจยังย่ำแย่และหวาดผวาอย่างหนัก โดยหากเป็นไปได้อยากวิงวอนขอให้ทางเจ้าของสุนัขย้ายสุนัขทั้ง 2 ตัว ไปอยู่ที่อื่นด้วย เนื่องจากล่าสุดหลังจากที่เกิดเหตุแล้วพบว่ายังคงพาเดินเล่นอยู่ในพื้นที่โครงการ ซึ่งเข้าใจว่าเจ้าของน่าจะมีความรักความผูกพันกับสุนัขที่เลี้ยงไว้ อย่างไรก็ตามเนื่องจากบริเวณโครงการเป็นแหล่งชุมชนที่มีร้านค้าต่างๆ เป็นจำนวนมาก และเป็นตลาดนัดด้วย ซึ่งมีผู้คนพลุกพล่าน จึงไม่อยากให้เกิดเหตุซ้ำรอยกับลูกชายของตัวเองอีก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน