น่าเสียดาย! ไข่เต่าตนุ เน่าคารัง 75 ฟอง รอดไปได้แค่ 2 ตัว ที่ชายทะแลบ้านดอนตาเหว่า จ.ประจวบคีรีขันธ์ คาดเป็นแม่เต่าท้องแรก ขุดหลุมลึกเกินไป จนลูกเต่าแทรกทรายขึ้นมาไม่ได้ หรืออาจจะเป็นเพราะสภาพอากาศ

ไข่เต่าตนุ วันที่ 18 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ชายทะแลบ้านดอนตาเหว่า หมู่ 7 ต.นาหูกวาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายอติชาต อินทองคำ นักวิชาการประมงชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มสัตว์ทะเลหายาก ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง (ศวทก.) จ.ชุมพร พร้อมเจ้าหน้าที่ 4 คน ได้ช่วยกันเปิดรังไข่เต่าตนุ บริเวณใต้ต้นสนริมทะเล หลังชาวบ้านในพื้นที่สามารถบันทึกคลิปวีดีโอขณะแม่เต่าตนุตัวใหญ่ กำลังเดินลงทะเลพฤติกรรมคล้ายเพิ่งวางไข่ได้สำเร็จ เมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา และในช่วงนี้ครบกำหนดที่เต่าจะต้องออกจากไข่แล้ว จึงได้มาตรวจสอบ

เมื่อเจ้าหน้าที่ค่อยๆ เกลี่ยทรายออก พบว่า มีเปลือกไข่หลุดออกมา และพบไข่ที่เน่าเสียส่งกลิ่นเหม็น ไข่บางใบไม่มีตัวลูกเต่า บางใบมีตัวลูกเต่าสภาพครบสมบูรณ์แล้ว แต่คาดว่าน่าจะตายก่อนครบอายุที่จะแตกออกจากไข่เต่า เจ้าหน้าที่ตรวจนับได้ทั้งหมด 77 ฟอง แบ่งเป็นเน่าเสีย 75 ฟอง และอีก 2 ฟอง พบเปลือกไข่เต่าอยู่ด้านบนหลุมทราย แต่ไม่พบตัวจึงคาดว่าลูกเต่าตนุจะแตกไข่ออกมาได้สำเร็จและเดินลงทะเลไปแล้ว จากนั้นได้เก็บซากลูกเต่าตนุและเปลือกไข่ทั้งหมดกลับไปยังศูนย์วิจัยฯ

นายอติชาต เปิดเผยว่า เบื้องต้นพบว่าไข่เต่าที่เหลือเน่าเสียทั้งหมด คาดว่าน่าจะเกิดจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงมีฝนตกลงมาต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดความชื้นในหลุมไข่เต่า อีกทั้งแม่เต่าขุดหลุมลึกถึง 60 เซนติเมตร ด้านล่างดินค่อนข้างแน่น อาจเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ลูกเต่าไม่สามารถดันเปลือกไข่แล้วแตกแล้วแทรกตัวออกจากทรายได้ และด้วยแม่เต่าสาวอาจเป็นท้องแรก อาจเกิดจากไข่ไม่สมบูรณ์ได้ แต่ทั้งนี้จะต้องตรวจสอบซากลูกเต่าเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงด้วย

ด้าน น.ส.สุรีรัตน์ แต้ชูตระกูล นักวิชาการกลุ่มอนุรักษ์ทับสะแก กล่าวว่า เป็นเรื่องน่าเสียดายที่รังไข่เต่าที่พบล่าสุดตายเกือบหมด รอดเพียงแค่ 1 เปอร์เซนต์เท่านั้น แต่สิ่งนี้ยืนยันความอุดมสมบูรณ์และความเหมาะสมของชายหาดทับสะแกได้เป็นอย่างดีว่า พื้นที่ อ.ทับสะแก เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงสำหรับเป็นพื้นที่วางไข่ของเต่าตนุและเต่าทะเลสายพันธุ์อื่นมาอย่างยาวนาน ชาวบ้านพบร่องรอยแม่เต่าขึ้นมาบนชายหาดทุกปี เพียงแต่ที่ผ่านมาไม่มีการเฝ้าอย่างจริงจังและเก็บขึ้นมูลเพื่องานวิจัย

ซึ่งครั้งสุดท้ายที่ชาวบ้านพบรังไข่เต่าและเต่าแตกรังให้เห็นประมาณปี 2552 อยู่ห่างจากรังไข่เต่าที่พบในปีนี้ประมาณ 150 เมตร ในอดีตได้เคยประกาศพื้นที่ริมทะเลบ้านดอนตาเหว่าเป็นพื้นที่อนุรักษ์วางไข่เต่าทะเล มาแล้ว แต่เป็นพื้นที่เล็กๆ โดยในปีนี้ชาวบ้านได้ติดตามพฤติกรรมแม่เต่า พบร่องรอยการขึ้นมาของแม่เต่าเฉพาะในปีนี้ครอบคลุมพื้นที่ชายหาดบ้านดอนตาเหว่า ประมาณ 3 กิโลเมตร พบจุดที่แม่เต่าเดินขึ้นมาบนชายหาดเพื่อสำรวจจุดวางไข่บนชายหาดให้เห็น อย่างน้อย 4 จุด และพบจุดที่แม่เต่าขุดหลุมแล้ว 3 จุด ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ทับสะแกและจิตอาสา จึงผลัดเปลื่ยนหมุนเวียนกันเข้ามาช่วยกันเฝ้าระวัง 3 ชุดทั้งเช้า กลางวัน และช่วงค่ำคืน

บทเรียนที่พบไข่เต่าเน่าเสียในครั้งนี้จะเป็นบทเรียนให้ชาวบ้านกลุ่มอนุรักษ์ทับสะแกและจิตอาสาได้เก็บข้อมูลวิจัย เพื่อการอนุรักษ์ที่ยั่งยืน ทั้งนี้หากส่วนราชการและชาวบ้านให้ความสำคัญกับพื้นที่ชายทะเลบ้านดอนตาเหว่า ในการอนุรักษ์ ดูแลและเฝ้าระวัง เชื่อว่าพื้นที่นี้จะเป็นพื้นที่ในการวางไข่ของเต่าทะเลที่มีศักยภาพของอ่าวไทยได้เลย

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ขณะเดียวกัน นายกิติวงศ์ แสงสุวรรณ ชาวบ้านจิตอาสาเฝ้าระวังไข่เต่า ระบุว่า ได้เข้ามาช่วยเฝ้าระวังพื้นที่ หลังพบว่ามีแม่เต่าขึ้นมาวางไข่บนชายหาดทับสะแก โดยประสานขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง (ศวทก.) ถึงวิธีการสังเกตจุดวางไข่ ลักษณะพื้นทราย ตรวจนับวันครบกำหนดไข่เต่าแตกรัง กระทั้งตนพบเปลือกไข่เต่า จำนวน 2 ใบ โผล่ขึ้นมาจากหลุดไข่เต่า แต่ไม่พบตัว จึงได้แจ้งความคืบหน้าให้เจ้าหน้าที่ทราบและได้มาเปิดรังไข่เต่า ซึ่งน่าเสียดายที่ตายเกือบหมด เหลือรอดลงทะเลไปได้เพียง 2 ตัวเท่านั้นเอง แต่ทั้งนี้ชาวบ้านไม่ถอดใจ จะช่วยกันเฝ้าระวังพื้นที่วางไข่เต่าทะเลต่อไป


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน