กองปราบ รวบหนุ่มใช้ปืนปลอม จี้ร้านทอง ตลาดกุยบุรี อ้างไม่มีงานทำ

เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก.ป. สั่งการให้พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ท.สิทธิเกียรติ ศรีจันทร์ รอง ผกก.5 บก.ป. พ.ต.ต.นิธิ ตรีสุวรรณ สว.กก.5 บก.ป. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กุยบุรี และกองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 7 จับกุมนายธนู จันทร อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 หมู่ 1 ต.เขาแดง อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่โรงแรม ก.เอราวัณ เลขที่ 78 ถนนคตกฤต ต.ห้วยจระเข้ อ.เมือง จ.นครปฐม

ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ที่ จ.157/2562 ลงวันที่ 22 มิถุนายน ข้อหาชิงทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อกระทำความผิด เพื่อการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควร

พ.ต.อ.เนติ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. มีคนร้ายเป็นชายสวมแว่นกันแดด เสื้อโปโลสีน้ำเงิน ปลอกแขนกันแดดทั้ง 2 ข้าง กางเกงยีนส์ขาสั้นสีน้ำเงิน รองเท้าผ้าใบสีขาว ปิดบังอำพรางตัว เข้ามาภายในร้านทองแม่จู ตลาดกุยบุรี หมู่ 1 ต.กุยบุรี อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทำทีเป็นขอดูสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 2 บาท 1 เส้น เมื่อทางร้านหยิบสร้อยคอทองคำออกมาให้ดู คนร้ายได้ชักอาวุธปืนพกสั้นแบบแมกกาซีน ไม่ทราบขนาด ออกมาจากเอว ข่มขู่เจ้าของร้าน ก่อนหยิบเอาสร้อยคอทองคำดังกล่าว แล้วหลบหนีไป

พ.ต.อ.เนติ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า คนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นเวฟ สีดำ-ขาว ทะเบียน ขฉก 394 สระบุรี เป็นยานพาหานะในการหลบหนี จากการสืบสวนทราบว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายธนู จันทร ทางพนักงานสอบสวน สภ.กุยบุรี จึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายจับ จนทราบว่าหลบนีมาอยู่ที่โรงแรม ก.เอราวัณ อ.เมือง จ.นครปฐม

จึงนำกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหาได้พร้อมของกลาง คือ เสื้อผ้า รองเท้า และแว่นกันแดด ที่สวมใส่ขณะก่อเหตุ สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 2 สลึง จำนวน 1 เส้น ซึ่งผู้ต้องหานำเงินที่ได้จากการก่อเหตุไปซื้อ แหวนทองคำ น้ำหนัก 1 สลึง จำนวน 1 วง เงินสด จำนวน 5,000 บาท

เบื้องต้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นคนก่อเหตุจริง ส่วนอาวุธปืนที่ใช้เป็นอาวุธปืนปลอม แต่หล่นหายระหว่างขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี ส่วนสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 1 บาท จำนวน 1 เส้น ที่ได้มานั้น ผู้ต้องหานำไปขายที่ร้านทองไม่ทราบชื่อ บริเวณสี่แยกปราณบุรี ได้เงินมาจำนวน 34,000 บาท

จากนั้นนำเงินที่ได้ไปซื้อสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 2 สลึง จำนวน 1 เส้น และแหวนทองคำน้ำหนัก 1 สลึง จำนวน 1 วง ที่ร้านทองรูปพรรณไม่ทราบชื่อใกล้ๆ กัน และโทรศัพท์มือถืออีก 1 เครื่อง เหลือเงินสดจากการก่อเหตุแค่ 5,000 บาท ก่อนจะถูกตามจับกุม ส่วนสาเหตุที่ทำลงไป เพราะขณะนี้ตนตกงานไม่มีงานทำ ภายหลังการสอบสวนจึงนำตัวส่ง สภ.กุยบุรี ดำเนินคดีต่อไป


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน