กอ.รมน.ภาค 4 แจงชาวบ้านหมดสติ สมองบวม หลังคุมเข้าค่าย
ไม่พบหลักฐานว่าเกิดจาก จนท.

เมื่อวันที่ 21 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี นายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ อายุ 34 ปี ผู้ต้องสงสัยคดีความมั่นคงได้ช็อกหมดสติ ขณะถูกควบคุมตัวภายในหน่วยซักถาม ฉก.ทพ.43 ค่ายอิงคยุทธบริหาร เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 21 ก.ค. ปัจจุบันยังคงพักรักษาตัวที่ ร.พ.ปัตตานี นั้น

ทาง กอ.รมน.ภาค 4 สน. ได้ชี้แจงว่า ผลจากการซักถามนายอิบรอเฮง มะเซ็ง ผู้ก่อการร้ายระดับหัวหน้า ซึ่งถูกควบคุมตัวเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 2562 ให้การสารภาพและซัดทอดว่านายอับดุลเลาะ เป็นผู้ก่อการร้ายในพื้นที่ อ.สายบุรี ทำหน้าที่เป็นฝ่ายโลจิสติกและเคยร่วมก่อเหตุคดีความมั่นคงมาแล้วหลายครั้ง

ต่อมาเมื่อวันที่ 20 ก.ค. 2562 เวลา 16.45 น. ฉก.ทพ.44 ได้จัดกำลังเข้าไปติดตามเพื่อเชิญตัวมาสอบสวนโดยได้ประสานกับผู้นำท้องที่ ผู้นำศาสนาและเครือญาติเข้าทำการตรวจสอบ สามารถควบคุมตัวบุคคลเป้าหมายได้ จึงนำตัวไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.สายบุรี โดยมีภรรยาและผู้นำท้องที่ ผู้นำศาสนามาเป็นสักขีพยานก่อนนำส่งตัว ณ หน่วยซักถาม ฉก.ทพ.43 ภายในค่ายอิงยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เวลา 19.30 น. ของวันเดียวกัน

ผลจากการตรวจร่างกายเบื้องต้น โดยแพทย์ ร.พ.ค่ายอิงคยุทธบริหาร พบว่าร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง โดยหน่วยได้ทำการซักถามในเบื้องต้นพบมีอาการเครียด จึงให้เข้าพักในห้องควบคุมตัวเวลาประมาณ 22.00 น. และเมื่อเวลา 03.00 น. เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบว่านอนหมดสติในห้องน้ำภายในห้องควบคุมตัว จึงนำตัวส่งร.พ.ค่ายอิงคยุทธบริหาร เพื่อให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น ก่อนนำส่ง ร.พ.ปัตตานี ตามลำดับ

จากกรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กอ.รมน.ภาค 4 สน. ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้น ตั้งแต่ขั้นการจับกุม, ขั้นการควบคุมตัวและซักถาม ยังไม่พบหลักฐานใดที่บ่งชี้ว่าเกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่ ซึ่งสอดคล้องกับผลการตรวจร่างกายของแพทย์ ที่ไม่พบร่องรอยบาดเจ็บภายนอกร่างกาย ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลทางการแพทย์เพิ่มเติมที่ ร.พ.ปัตตานี พบว่าสมองมีอาการบวมซึ่งเชื่อว่าน่าจะเกิดจากการขาดอ็อกซิเจนในขณะช็อกหมดสติ หรือเกิดจากการปั๊มหัวใจ สำหรับสาเหตุที่แท้จริงจะต้องรอหลักฐานยืนยันจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญต่อไป

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นไปอย่างอิสระ โปร่งใสและเกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ ผอ.รมน.ภาค 4 จึงเชิญหน่วยที่เกี่ยวข้องมาประชุมเพื่อมอบแนวทาง และได้ประสานให้คณะกรรมการด้านสิทธิมนุษยชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน เพื่อหาข้อสรุปและหาแนวทางในการดำเนินการที่เหมาะสม

“ขอยืนยันว่าหากตรวจพบว่าเกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ก็จะไม่ปกป้องและจะลงทัณฑ์สถานหนักทั้งวินัยและอาญาทหาร พร้อมกับได้สั่งกำชับหน่วยซักถามให้ปฏิบัติตามระเบียบและแนวทางที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัดเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้อีกต่อไป”

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน