จับคาเตียง ลูกชายอดีตราชายาเสพติด ร่วมกับพวกค้าโคเคนในพัทยา ควักเงินสด 6 ล้านซื้อบ้านหรู หลังหนีรายงานตัวจากอังกฤษมากบดานที่ไทย แฟนสาวโดนด้วย
ลูกชายอดีตราชายาเสพติด วันที่ 20 ส.ค. พ.ต.อ.ดุลยพัฒน์ เตชพรชยาสินธ์ ผกก.ฯ ปฏิบัติหน้าที่งานสืบสวน กฎหมายและสอบสวน ศูนย์อำนวยการปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศอ.ปส.ตร.) สนธิกำลังกับตำรวจ กก.1 บก.สกส.บช.ปส., ตำรวจ นปส.พัทยา กก.1 บก.ปส.2 บช.ปส., ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดชลบุรี, ตำรวจท่องเที่ยวพัทยา และตำรวจ สภ.หนองปรือ รวมกว่า 20 นาย นำหมายค้นจากศาลจังหวัดพัทยาที่ ค.63/2562 ลงวันที่ 15 ส.ค.62 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 149/192 หมู่ 7 หมู่บ้านภัทราวิลเลจ ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังได้รับแจ้งว่ามีชาวต่างชาติที่ลักลอบค้ายาเสพติดในเมืองไทย ใช้บ้านหลังนี้เป็นที่พักอาศัย
เมื่อไปถึงพบว่าเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ปลูกสร้างอยู่บนพื้นที่ 120 ตารางวา เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังล้อมบ้านเอาไว้ ก่อนเคาะประตูเรียกกระทั่งมีหญิงสาวชาวไทย ทราบชื่อภายหลังคือ น.ส.เฌอมาลย์ เกษนา อายุ 24 ปี มาเปิดประตู ตำรวจจึงแสดงหมายค้นและเข้าไปควบคุมตัว นายลุค ไมเคิล ทิมมินส์ อายุ 28 ปี สัญชาติอังกฤษ ขณะหลับอยู่ในห้องนอนบนชั้น 2 พร้อมกับแสดงหมายจับ Prison No : K73942 CRO No : 231658/06Q ลงวันที่ 2 ก.ค. คศ.2015 ในฐานความผิด ครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย ซึ่งออกโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมของอังกฤษ และได้ประกาศแจ้งเตือนไปยังประเทศตามภูมิภาคต่างๆ ในระดับ Blue Notice ซึ่งนายลุค ก็ยอมรับว่าตัวเองเป็นบุคคลตามหมายจับจริง
จากการตรวจค้นภายในบ้าน พบโคเคน น้ำหนักรวม 3.71 กรัม ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าถือสีดำ ซึ่งเป็นของ น.ส.เฌอมาลย์ แฟนสาวของ นายลุค นอกจากนี้ยังพบโคเคนอีก 1 ถุง น้ำหนักประมาณ 1.11 กรัม ซุกซ่อนอยู่ในตู้โชว์ จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน พร้อมกับอายัดทรัพย์สินไว้ตรวจสอบ ประกอบด้วยบ้านพัก 2 ชั้นราคาประมาณ 6,000,000 บาท, รถยนต์มิตซูบิซิ ปาเจโร่ สีดำ หมายเลขทะเบียน ขอ-267 ชลบุรี, รถจยย.ฮอนด้า ซูเมอร์เอ็กซ์ หมายเลขทะเบียน 1กฬ 8616 ชลบุรี, สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารต่างๆ รวม 3 เล่ม, สร้อยข้อมือทองเค ราคา 30,000 บาท และราคา 20,000 บาท รวม 2 เส้น และแหวนทองเค 1 วง ราคาประมาณ 15,000 บาท
นอกจากนี้ตำรวจยังได้ตรวจปัสสาวะของ นายลุค และ น.ส.เฌอมาลย์ พบว่ามีสารเสพติดประเภทโคเคนอยู่ จากการสอบสวนเบื้องต้น นายลุค รับสารภาพว่าโคเคนที่พบซื้อมาจากผู้ชายไทย ย่านถนนวอล์คกิ้งสตรีท พัทยา ในราคากรัมละ 2,500 บาท
วันเดียวกันกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกชุด เข้าจับกุม นายแดเนียล ฮิลตัน วู๊ด อายุ 29 ปี สัญชาติอังกฤษ หลังสืบทราบว่าได้ร่วมกับ นายลุค ค้ายาเสพติดในไทย โดยสามารถจับกุมได้ขณะพาภรรยาชาวไทยไปทำบุญที่วัดป่ายางหัวช้าง ต.ยางน้อย อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม จากการตรวจค้นไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย เมื่อตรวจสอบสถานะการเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทย พบว่าการอนุญาตได้สิ้นสุด (Overstay) ตั้งแต่วันที่ 17 ต.ค.59
จากแนวทางการสืบสวนทราบว่า นายลุค เคยถูกตำรวจอังกฤษจับกุมในข้อหาครอบครองยาเสพติดเพื่อจำหน่าย ซึ่งศาลได้ตัดสินจำคุกรวม 40 เดือน หลังจากถูกจองจำอยู่นาน 20 เดือน ก็ได้รับสิทธิ์ให้ประกันตัวออกมาจากเรือนจำ แต่ต่อมาได้หลบหนีการรายงานตัว แล้วเดินทางเข้าประเทศไทย เมื่อวันที่ 13 ม.ค.62 และครบกำหนดอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรวันที่ 4 ก.พ.62 แต่ได้ยื่นเอกสารขออยู่ต่อที่ ตม.พัทยา และจะครบกำหนดในวันที่ 31 ต.ค.62 จากนั้นได้ร่วมกับภรรยาเก่าชาวไทย ยื่นจดทะเบียนเปิดบริษัททำธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ไว้บังหน้าเพื่อฟอกเงิน ก่อนที่จะใช้เงินสดซื้อบ้านหรู 2 ชั้น ที่หมู่บ้านภัทราวิลเลจ ในราคาประมาณ 6,000,000 บาท
นอกจากนี้จากการตรวจสอบประวัติยังทราบว่า นายลุค เป็นลูกชายของ นายไมเคิล ทิมมินส์ อายุ 46 ปี อดีตนักค้ายาเสพติด ซึ่งเคยถูกศาลอังกฤษพิพากษาจำคุก 6 ปี จากการลักลอบนำเข้า Mephedrone ซึ่งเป็นหนึ่งในสารตั้งต้นของการผลิตยา Bath Salt หรือ “ยาซอมบี้” จำนวน 30 กิโลกรัม โดยปัจจุบันนายไมเคิล ได้พ้นโทษออกมาจากเรือนจำแล้ว
ส่วนของ นายแดเนียล ฮิลตัน วู๊ด พบว่ามีหมายจับ Prison No : M63654 CRO No : 232674/06V ลงวันที่ 26 มิ.ย.2014 ฐานความผิด ลักลอบนำเข้ายาเสพติด โดยศาลพิพากษาตัดสินให้จำคุกเป็นเวลา 1 ปี 6 เดือน แต่ได้หลบหนีเข้ามาแต่งงานอยู่กินกับหญิงไทย และพักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 343/60 หมู่บ้านรัตนาวิลเลจ 17 หมู่ 2 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ก่อนร่วมกับ นายลุค เพื่อนสนิท ลักลอบจำหน่ายโคเคนในพื้นที่เมืองพัทยา และยังมีส่วนพัวพันเชื่อมโยงกันกับขบวนการของ Mr.Adrian Matthews หรือ Mr.Adrian LeCa อดีตประธานสมาชิกแก๊ง Bandidos MC สาขาพัทยา ที่ถูกเจ้าหน้าที่ศุลกากรนิวซีแลนด์ จับกุมตัวพร้อมกับพวก พร้อมด้วยของกลางยาไอซ์ มูลค่า 17 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเดือน ต.ค.2560 อีกด้วย
หลังจากนี้จะทำหนังสือถึง พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิวดวง ผบช.สตม. เพื่อเสนอให้พิจารณาเพิกถอนวีซ่าของทั้ง 2 คน และแจ้งเรื่องนี้ให้สถานทูตอังกฤษทราบต่อไป
