คล้องพระดีโดนยิง 2 ครั้งไม่เข้า ท้าพี่ชายไปป่าช้า ถกเสื้อให้ยิง พระร่วง โป้งเข้าอก เดินมาตายหน้าบ้าน ญาติเผยเคยถูกยิงแต่ไม่ระคายผิวถึง 2 ครั้ง คาดพระที่คล้องอยู่ร่วงก่อน ตอนนี้ยังหาพระไม่เจอ
พระร่วง วันที่ 21 ส.ค. ร.ต.อ.ณัฐวุฒิ มณีกาศ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.พระธาตุช่อแฮ จ.แพร่ ได้รับแจ้งว่ามีคนถูกยิงเสียชีวิตใกล้กับถนนในหมู่บ้านนาตอง ตรงข้ามบ้านเลขที่ 35 หมู่ 9 ต.ช่อแฮ อ.เมือง จ.แพร่ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.สุรพล เจริญวัฒนกุล รองผกก.สส.สภ.พระธาตุช่อแฮ, พ.ต.ท.ณฐกฤษ ชัยนันท์ รองผกก.(สอบสวน), พ.ต.ต.อรุณ ทวีปะ สว.สส., ตำรวจชุดสืบสวน สภ.พระธาตุช่อแฮ, แพทย์เวร ร.พ.แพร่ และเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.แพร่
ที่เกิดเหตุพบศพ นายสนั่น จันทร์วงศ์ อายุ 45 ปี เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว นอนเสียชีวิตอยู่ในพงหญ้า เสื้อยืดสีดำถลกขึ้นไปอยู่ที่ลำคอ ในมือขวาถือมีดทำครัว มีสายสร้อยประคำไม่มีพระห้อย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่บริเวณหน้าอกซ้าย 3 รู ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายผั่น จันทร์วงศ์ อายุ 47 ปี พี่ชายของผู้ตาย ได้รอมอบตัวกับตำรวจ พร้อมกับอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ
จากการสอบสวน นายฝั่น ให้การว่า ตนและน้องชายทะเลาะกันเป็นประจำ เพราะว่าน้องชายเมื่อเมาแล้วชอบเอะอะโวยวายหาเรื่องว่าโน่นว่านี้ เคยยิงกันมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่น้องชายมีพระดีทำให้ยิงไม่เข้า โดยน้องชายคล้องพระร่วงรางปืนไว้ นอกจากนี้ยังเคยถูกคนในหมู่บ้านยิงแต่ก็ไม่เข้าเช่นกัน จึงทำให้ทนงตน ก่อนวันเกิดเหตุช่วงเวลา 20.30 น.วานนี้ (20 ส.ค.) ก็มีปากเสียงกัน ทั้งๆ ที่แยกกันอยู่คนละบ้าน โดยน้องชายมาหาเรื่อง ตนก็ยิงปืนใส่ไป 1 นัด แต่ไม่ระคายผิว จากนั้นน้องชายก็นัดหมายกับตนว่า “วันพรุ่งนี้เช้ามึงแน่จริงไปยิงกันในป่าช้าเลย”
กระทั่งเช้าวันนี้ ตนก็ไปตามที่นัดหมาย พบว่าน้องชายเอามีดไปด้วย แต่มาพบกันกลางทางก่อนถึงป่าช้า น้องชายก็ถือมีดเข้ามาแล้วก็ถกเสื้อที่สวมใส่ขึ้นแล้วตะโกนว่า “แน่จริงมึงยิงกูเลย” ตนก็ยกปืนขึ้นยิงเข้าใส่หน้าอก 1 นัด น้องชายก็หันหลังเดินกลับมาที่บ้าน แต่เดินมาได้ประมาณ 80 เมตรก็ล้ม ซึ่งคาดว่าตอนยิงนั้นพระในคอน่าจะหลุดออกตอนที่เปิดเสื้อขึ้น หากพระยังอยู่คงจะยิงไม่เข้า หลังจากนั้นตนก็กลับบ้านโดยที่ยังไม่รู้ว่าน้องชายเสียชีวิต จนกระทั่งมีเสียงเพื่อนบ้านตะโกนกันว่าน้องชายตายแล้ว ตนก็ไม่ได้หนีจึงรอมอบตัวกับตำรวจ
จากการสอบญาติผู้ตายรายหนึ่งให้การว่าว่า ผู้ตายเวลาดื่มเหล้าแล้วมักจะคุยโอ้อวดว่า เป็นคนหนังเหนียวยิงไม่เข้า มีพระร่วงรางปืนห้อยคอป้องกันภัยไว้ เที่ยวอวดไปทั่วในหมู่บ้าน เมื่อปี 2558 ก็เคยท้าคนในหมู่บ้านให้มายิงแล้ว ก็ไม่เป็นไร แต่ก็เคยถูกพี่ชายยิงมาก่อนหน้านี้อีกรวมเป็น 2 ครั้ง ก็ไม่เป็นไรเช่นกัน กระทั่งเมื่อคืนชาวบ้านก็ได้ยินเสียงทั้ง 2 คนทะเลาะกันและท้ากันไปยิงในป่าช้า กระทั่งมาเกิดเรื่องดังกล่าว
ขณะที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.แพร่ ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุและร่วมชันสูตรพลิกศพ ชาวบ้านก็บอกให้ตำรวจช่วยหาพระร่วงรางปืนของผู้ตายว่าตกในที่เกิดเหตุหรือไม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตรวจสอบที่เกิดเหตุก็ไม่พบ หรือมีคนเก็บเอาไปแล้ว ชาวบ้านต่างก็วิจารณ์กันว่า พระร่วงรางปืนของผู้ตายไปอยู่ไหน ที่ห้อยคอก็ไม่มี หากพระร่วงรางปืนห้อยคออยู่จะไม่เป็นอะไรเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวนายฝั่น ทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก่อนนำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
