องค์การอนามัยโลก เตือน! บุหรี่ไฟฟ้า ไม่ช่วยเลิกสูบ เสี่ยงมะเร็งเหมือนเดิม
เมื่อวันที่ 1 ก.ย. ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้เผยแพร่รายงานสถานการณ์ควบคุมยาสูบโลกประจำปี 2562 เมื่อวันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยเตือนทั่วโลกถึงอันตรายของผลิตภัณฑ์ยาสูบรูปแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็นบุหรี่ไฟฟ้าแบบแห้งหรือแบบเติมน้ำยา โดยย้ำว่ายังไม่มีหลักฐานที่เพียงพอจะสนับสนุนว่า ผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่เหล่านี้มีอันตรายน้อยกว่าบุหรี่แบบดั้งเดิม แม้จะพบว่าปริมาณสารพิษในบุหรี่ไฟฟ้าอาจจะน้อยกว่าที่พบบุหรี่แบบดั้งเดิม แต่สารพิษในบุหรี่ไฟฟ้าบางตัวไม่พบในบุหรี่แบบดั้งเดิม ทำให้ไม่สามารถจะสรุปได้ว่า บุหรี่ไฟฟ้าทำอันตรายต่อสุขภาพน้อยกว่าบุหรี่แบบดั้งเดิม
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
“นอกจากนี้ บุหรี่ไฟฟ้ามีนิโคตินที่เป็นสารเสพติดเป็นส่วนประกอบสำคัญ และพบมีปริมาณสูง เป็นอันตรายต่อผู้เสพโดยเฉพาะเด็ก วัยรุ่น และสตรีมีครรภ์ นอกจากนี้ ไม่พบหลักฐานที่น่าเชื่อถือว่า การใช้บุหรี่ไฟฟ้าช่วยทำให้เลิกสูบบุหรี่ธรรมดาได้ ซ้ำหลักฐานบางชิ้นยังแสดงว่า บุหรี่ไฟฟ้าทำให้การเลิกสูบบุหรี่เป็นไปได้ยากขึ้น จึงไม่แนะนำให้ผู้สูบบุหรี่ใช้บุหรี่ไฟฟ้าเพื่อเลิกบุหรี่ และการเปลี่ยนจากการสูบบุหรี่ธรรมดามาสูบบุหรี่ไฟฟ้า ก็ไม่ถือว่าเป็นการเลิกสูบบุหรี่ เนื่องจากยังก่อให้เกิดอันตรายทั้งต่อสุขภาพผู้สูบ สังคมและคนรอบข้าง” ศ.นพ.ประกิต กล่าว
ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ
ด้าน ดร.วีรา ลิวซา ดา คอสตา เลขาธิการอนุสัญญาควบคุมยาสูบ องค์การอนามัยโลก กล่าวว่า อุปสรรคสำคัญต่อการควบคุมการบริโภคยาสูบทั่วโลก คือ กลยุทธ์การตลาดของบริษัทบุหรี่ ที่พยายามสร้างภาพโดยการออกผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ๆ ที่ใช้ชื่อว่าเป็นผลิตภัณฑ์ยาสูบไร้ควัน โดยใช้งานวิจัยที่สนับสนุนโดยบริษัทบุหรี่เอง สร้างความเข้าใจผิดเพื่อผลประโยชน์ทางการตลาดว่า ผลิตภัณฑ์ใหม่นี้มีอันตรายน้อยกว่า เพราะไม่ทำให้เกิดควันเหมือนกันบุหรี่แบบดั้งเดิม แต่ด้วยหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ปัจจุบันไม่พบว่าผลิตภัณฑ์ใหม่เหล่านี้มีอันตรายต่อสุขภาพน้อยกว่าบุหรี่แบบดั้งเดิม
ขณะที่ ดร.วินายัก โมฮาน ปราสาด ผู้อำนวยการด้านการควบคุมยาสูบ องค์การอนามัยโลก กล่าวว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ไม่ช่วยให้เลิกบุหรี่ ไม่ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง และกล่าวชื่นชมประเทศที่ห้ามบุหรี่ไฟฟ้าแบบเด็ดขาด พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประเทศที่ยังไม่ได้มีกฎหมายควบคุมให้มีการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าเพื่อปกป้องการเข้าถึงของเยาวชน
ส่วน พญ.เริงฤดี ปธานวนิช อาจารย์ภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า ข้อมูลจากสถาบันเพื่อการควบคุมยาสูบโลก มหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกิน สหรัฐอเมริกา ได้รวบรวมข้อมูลกฎหมายการควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าของประเทศต่างๆ ทั่วโลก จากข้อมูลล่าสุดเมื่อ พ.ย. 2561 ที่ผ่านมา พบมี 98 ประเทศทั่วโลกที่มีกฎหมายควบคุมบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงไฟฟ้า เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ที่มีเพียง 68 ประเทศ
ในจำนวนนี้มี 29 ประเทศที่ห้ามจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าแบบเด็ดขาดทุกประเภท เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ที่มีการห้ามจำหน่ายเพียง 25 ประเทศ และอีก 45 ประเทศห้ามจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า หากยังไม่ผ่านเงื่อนไขที่รัฐบาลกำหนด เพิ่มขึ้นจากปี 2559 ที่มีเพียง 17 ประเทศ และอีก 7 ประเทศห้ามจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าที่มีส่วนผสมของนิโคติน ซึ่งถือเป็นการยืนยันว่า หลายๆ ประเทศ ได้ตระหนักถึงอันตรายของบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงบุหรี่ไฟฟ้าด้วย
