ตร.ภูเก็ต รวบแก๊งเช่ารถไปจำนำ สูญกว่า 40 ล้าน ผู้เสียหายโอด ไม่คิดคนไทยจะทำกันได้

เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. วันที่ 6 ก.ย. พล.ต.ต.วิศาล พันธ์มณี ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วย พ.ต.อ.สมพงษ์ ทิพย์อาภากุล ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.อ.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.ท.ธรรมสรรค์ บุญทรง รอง ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต พ.ต.ท.ปองภพ ประสบพิชัย รอง ผกก.จร.สภ.เมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน นำโดย พ.ต.ต.สุชาติ ชุมภูแสง สว.กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดวิเคราะห์อาชญากรรม กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ตร่วมแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 3 ราย ได้แก่ 1.นายเมธาวี ธรรมฉันธะ ตามหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ตที่ 230/2562 , 244/2562 ในความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์” และตามหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ตที่ 246/2562 ในความผิดฐาน “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน” 2.น.ส.ชนิดา ราชแสง ตามหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ตที่ 245/2562 ในความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์” และ 3.น.ส.ธมลวรรณ ธรรมฉันธะ ตามหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ตที่ 229/2562 ในความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์”

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

พล.ต.ต.วิศาล พันธ์มณี ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 2562 มีประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนหลายราย รวมตัวกันเข้าให้ข้อมูลเกี่ยวกับคนร้าย ซึ่งใช้กลอุบายตระเวนเช่ารถยนต์กับประชาชนและผู้ประกอบการรถเช่าในพื้นที่ จ.ภูเก็ต จำนวน 30-40 คัน แล้วนำไปขายต่อ หรือไปจำนำในพื้นที่ จ.ตรัง, พัทลุง และนครศรีธรรมราช แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต

โดยมี พ.ต.อ.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต เข้ารับฟังข้อมูลจากประชาชนที่ได้รับความเดือนร้อนด้วยตนเอง พร้อมประสานกับ พ.ต.อ.สมพงษ์ ทิพย์อาภากุล เพื่อขอให้พนักงานสอบสวนเข้าร่วมฟังเพื่อที่จะได้เข้าใจทราบถึงแผนประทุษกรรมของคนร้าย เพื่อจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายได้อย่างถูกต้องรวดเร็ว บรรเทาความเสียหายให้กับประชาชนผู้เสียหายได้

จับกุม 2 ผู้ต้องหา

ภายหลังจึงสั่งการให้มีการประชุมเพื่อวางแนวทางการสืบสวนและติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วที่สุด หลังจากเสร็จสิ้นการประชุม เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต ได้รวบรวมข้อมูลจากประชาชนที่ได้รับความเดือนร้อน และทำการสืบสวนอย่างต่อเนื่อง กระทั่งทราบว่าคนร้าย คือ นายเมธาวี ธรรมฉันธะ น.ส.ชนิดา ราชแสง (แฟนสาวของนายเมธาวีฯ) และ น.ส.ธมลวรรณ ธรรมฉันธะ พี่สาวของนายเมธาวีฯ เจ้าหน้าที่จึงรวบรวมพยานหลักฐานขอหมายจับต่อศาลจังหวัดภูเก็ต ต่อมาศาลฯได้อนุมัติหมายจับ ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน

ต่อมาชุดสืบสวนของ กก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต ได้ติดตามจับกุม นายเมธาวี ธรรมฉันธะ และน.ส.ชนิดา ราชแสง ได้ในพื้นที่ อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 2562 และจับกุม น.ส.ธมลวรรณ ธรรมฉันธะ ได้ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2562 นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองภูเก็ต

ตามจับกุมอีกราย

ในคดีนี้ผู้ต้องหาได้ทำทีเช่ารถยนต์จากผู้เสียหายไปประมาณ 30-40 คัน แล้วนำไปขายหรือจำนำในราคาที่ต่ำ ต่อมาเมื่อผู้เสียหายทราบก็พยายามติดตามรถคืนมาได้ทั้งสิ้นประมาณ 26 คัน แต่มีรถบางส่วนที่ไม่สามารถติดตามคืนมาได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามเอารถยนต์ส่วนที่เหลือมาให้ได้โดยเร็วที่สุด

“คนร้ายอาศัยช่องว่างของการเช่ารถยนต์ ซึ่งปล่อยเช่าอยู่ตามเมืองท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก เมื่อเช่ารถไปแล้วก็จะเอาไปขายหรือไปจำนำ แล้วนำเอาเงินดังกล่าวมาจ่ายเป็นค่าเช่า โดยจะจ่ายเงินตรงเวลาจนผู้ให้เช่าเกิดความเชื่อใจสร้างความน่าเชื่อถือ จึงเอารถหาให้เช่าอีก ขยายวงไปในลักษณะเป็นลูกโซ่ไปเรื่อยๆ บางครั้งเมื่อผู้เสียหายได้รถคืนก็ไม่ได้ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุ ทำให้วงจรนี้ก็ยังมีอยู่วนไปเรื่อยๆ”“หากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถคลี่คลายได้โดยเร็ว อาจจะมีประชาชนหรือผู้ประกอบการรถเช่าได้รับความเสียหายอีกเป็นจำนวนมาก จึงฝากประชาสัมพันธ์ให้ผู้เสียหายเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้ข้อมูล หรือแจ้งความดำเนินคดี กับกลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มนี้” พล.ต.ต.วิศาล กล่าวด้านพ.ต.ท.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต เปิดเผยเพิ่มเติมว่า คดีลักษณะนี้มีมานานแล้ว แต่ที่ผ่านมาเมื่อผู้เสียหายมาแจ้งความ และมีการติดตามจนได้รถคืนก็เงียบไป ไม่ดำเนินคดี ฝ่ายมิจฉาชีพก็ได้ใจ กลับมาทำอีก ทำให้วงจรการกระทำความผิดยังคงมีอยู่เช่นเดิม จากที่พบบางรายซึ่งติดตามรถเองก่อนหน้านี้ก็ต้องนำเงินไปไถ่ถอนรถกลับมา จึงให้แจ้งความดำเนินคดีไว้ด้วย เพื่อตัดวงจรการทำงานของกลุ่มผู้ก่อเหตุ

พ.ต.ท.ประวิทย์ กล่าวต่อว่า เราต้องจัดการปลายเหตุ คือกลุ่มรับซื้อรับจำนำ ทราบว่าบางส่วนมีการปลอมเอกสารรถไป จะต้องดูว่าเจตนารับเป็นอาชีพหรือรู้เห็นในการกระทำความผิดด้วยหรือไม่ ซึ่งขณะนี้ยังเหลือรถที่ต้องเร่งติดตามคืนอีกประมาณ 20 กว่าคัน และจากการพูดคุยกับกลุ่มผู้เสียหาย พบว่ายังมีกลุ่มอื่นอีกที่ทำในลักษณะเดียวกัน จึงจะต้องทำการสืบสวนขยายผลต่อไปน.ส.จงกล สีสม ผู้ประกอบการรถเช่า บริษัท Elephant Car rent ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียหายที่ถูกเช่ารถไป 9 คัน และสามารถติดตามกลับมาได้เพียง 2 คัน กล่าวว่า อยากฝากให้ผู้ประกอบการรถเช่าระมัดระวัง เพราะขณะนี้จากข้อมูลพบว่ามีอีกหลายแก๊ง ไม่ใช่แค่แก๊งของนายเมธาวีแก๊งเดียว จากข้อมูลพบว่าที่ จ.กระบี่ มีหลายรายที่โดนในลักษณะเดียวกัน จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นนับว่าเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ให้ตน ซึ่งปกติทางบริษัทจะไม่ปล่อยรถเช่าให้กับคนไทย นี่เป็นครั้งแรกและโดนขนาดนี้ ไม่คิดว่าคนไทยจะทำกันได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน