ผอ.โยธินบูรณะ แจงน้ำรั่ว ฝ้าถล่ม ยันอาคารแข็งแรง เร่งตรวจสร้างความมั่นใจ

จากกรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่โรงเรียนดังย่านบางโพธิ์ จนแฮชแท็ก #โยธินมรณะ ติดเทรนด์ทวิตเตอร์วันนี้ โดยพบว่าเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้เด็กๆ ออกมาเรียกร้องคุณภาพชีวิต และความปลอดภัยของตัวเอง หลังจากฝนตกลงมาอย่างหนัก จนฝ้าถล่มลงมาท่ามกลางเด็กๆ ที่ยังไม่เลิกเรียน นอกจากฝ้าจะถล่มลงมาแล้วยังพบว่าน้ำที่รั่วลงมา ทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรจนสัญญาณเตือนภัยดังขึ้น ทำให้เด็กแตกตื่นไปทั้งโรงเรียน มีการพยายามวิ่งลงบันไดจนวุ่นวาย

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 6 ก.ย. ที่โรงเรียนโยธินบูรณะ นำโดย นายอดิศักดิ์ วิไลลักษณ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนโยธินบูรณะ นางดารารัศมิ์ ศรีวิลัย รองผู้อำนวยการโรงเรียน กลุ่มบริหารทั่วไป รศ.สิริวัฒน์ ไชยชนะ ที่ปรึกษาวิศวกรสถานแห่งประเทศไทย นายรังสฤษดิ์ ถาวจัตุรัส สถาปนิก สพฐ. นายอทิทักษ์ ฐานะรัตน์ ศิษย์เก่าโรงเรียนโยธินบูรณะ และ น.ส.ปวีณ์กร แก้วนิล ประธานนักเรียน

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อนด้าน นายอดิศักดิ์ กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นโรงเรียนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ก็ได้ดำเนินการเร่งแก้ไขทันที ซึ่งเหตุการณ์นั้นเกิดจากการทดสอบการระบายน้ำจากแท็งก์น้ำทั้ง 13 แท็งก์ด้านบนบริเวณชั้น 13 ล้นมา และซึมมาที่ชั้น 12 ซึ่งเรื่องระบบป้องกันเป็นเรื่องปกติ เมื่อระบบตัดน้ำล้นหรือลูกลอยมีปัญหา ทำให้น้ำจากด้านบนไหลซึม ลงมาโดนฝ้าจนน้ำสะสม จึงเกิดให้น้ำทะลุลงมาเป็นเหตุดังกล่าว แต่ในเบื้องต้นได้มีการแก้ไขแล้ว ด้าน นายรังสฤษดิ์ กล่าวว่า จากข้อมูลเบื้องต้นคือฝ้าหลุดรั่ว ทางสพฐ. ได้เข้าตรวจสอบตั้งแต่เมื่อวาน พบว่าเป็นเพียงแค่ฝ้าหลุดร่วงในส่วนของตัวอาคาร ไม่ได้มีผลกระทบอะไร ถือว่ามีความคงทนแข็งแรงในระดับที่ดี ฝ้าเป็นเพียงส่วนประกอบของอาคาร ไม่ได้เกี่ยวกับโครงสร้างอาคาร ทั้งนี้ ได้มีการแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ซึ่งระยะแรก จะดำเนินการเร่งซ้อมอย่างเร่งด่วนอละให้เข้าอยู่ในสภาวะปกติภายใน 3 วัน ระยะที่สองจะต้องมีการจัดงบประมาณในการทำพื้น และที่ระบายน้ำถายใน 1 เดือน ระยะที่ 3 จะต้องมีการตรวจสอบในเรื่องของโครงสร้างตัวอาคาร ร่วมกับที่ปรึกษาวิศวกรสถานแห่งประเทศไทย เป็นเวลา กว่า 10 วันในการตรวจสอบ ซึ่งจะต้องตรวจสอบทั้งระบบทั้งโครงสร้างต่างๆ ระบบไฟฟ้าและระบบลิฟท์ทุกอย่าง เพื่อให้ความมั่นใจแก่ผู้ปกครอง และนักเรียนว่าอาคารหลังนี้นั้นมีความปลอดภัยและใช้งานได้

ส่วน รศ.สิริวัฒน์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบดูอาคารดังกล่าวแล้วนั้น เมื่อเกิดปัญหาน้ำล้นที่อยู่ในแท็งก์ชั้น 13 และระบบไม่ยอมทำงาน ซึ่งไม่ทราบว่ามาจากสาเหตุใด จนทำให้น้ำล้นลงมาจากแท็งก์โดยรอบที่มีอยู่รอบตัวอาคาร เจิ่งนองบนพื้น ทั้งนี้ ระบบจำพวกรางน้ำต่างๆ อาจจะเตรียมการไว้แบบคิดไม่ถึง จนทำให้น้ำซึมมาที่ฝ้าเพดานบริเวณชั้น 12 ตัว ซึ่งฝ้านั้นไม่ได้เป็นวัสดุที่ทนทานเกี่ยวกับน้ำอะไรมาก แค่โดนน้ำนิดเดียวก็ทำให้อ่อนแอได้ ทำให้ฝ้าหลุดร่วงลงมา ตัวต้นเหตุคือตัวที่เป็นโครงสร้างอยู่ชั้น 13 จึงต้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งต่อไปในส่วนเรื่องที่มีสัญญาณไฟไหม้ดังขึ้นนั้น เกิดจากน้ำที่รั่วซึมจากบริเวณชั้น 12 หยดใส่เครื่องตรวจวัดควัน จนทำให้เกิดการชอร์ตและส่งสัญญาณไฟไหม้ดังขึ้น เรื่องนี้ต้องชื่นชมเด็กๆ ที่เมื่อได้ยินสัญญาณแจ้งเหตุเพลิงไหม้ดังขึ้น ทุกคนต่างทำตามขั้นตอนการฝึกซ้อมหนีเพลิงไหม้ได้เป็นอย่างดี ทุกคนต่างลงมารวมตัวกันที่สนาม และตั้งแถวนับจำนวนคนทั้งนี้ในส่วนของ #โยธินมรณะ จะทำให้เราสูญเสียความเชื่อมั่นหรือไม่นั้น สมัยที่ตนยังเด็กก็เรียนที่โรงเรียนดังกล่าว ก็เป็นเด็กดื้อพอสมควรเมื่อถูกครูตีก็เลยไม่ชอบครู ชอบโรงเรียน สมัยก่อนไม่มีโซเชียลก็ได้แต่คิดเขียนตามโต๊ะประตูห้องน้ำต่างๆ ปัจจุบันนี้มีโซเชียลให้นักเรียนได้ระบาย วันหนึ่งถ้าเขาโตขึ้น ตนคิดว่าเขาก็คงรักโรงเรียนเหมือนที่ตนรัก ก็เป็นไปตามวัย

ขณะที่ น.ส.ปวีณ์กร กล่าวว่า ในช่วงเกิดเหตุ ช่วงแรกก็รู้สึกตกใจ และตั้งสติแบบที่ได้ซ้อมกันไว้กับทางโรงเรียน ทุกคนก็ได้ยึดธงของแต่ละห้องอพยพลงไปด้านล่างบริเวณสนาม ซึ่งเป็นจุดรวมพลของโรงเรียน ในส่วนของผู้พิการที่ต้องอพยพลงไปนั้น ก็จะมีคณะกรรมการนักเรียนให้ความช่วยเหลืออยู่แล้ว เพื่อไปที่จุดรวมพล เบื้องต้นไม่มีใครได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน