ด.ช. 8ขวบ สุดผวา ชายโรคจิต มีดจี้คอ วาสลีนทาก้น พาไปตุ๋ยข้างวัด ตร.เร่งตามล่า
วันที่ 20 ก.ย. ที่สภ.เมืองอุดรธานี น.ส.อ้อย (นามสมมุติ) อายุ 23 ปี และ ด.ช.เอ (นามสมมุติ) อายุ 8 ขวบ หลานชาย เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ชนาธิป บัวเข็ม รองสว.(สอบสวน) เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ว่า มีชายโรคจิต พยายามข่มขืนกระทำชำเรา ด.ช.เอ ทางทวารหนัก เหตุเกิดที่คลองน้ำข้างวัดป่าแห่งหนึ่งในตัวเมืองอุดรธานี หลังจากได้รับแจ้ง จึงรีบนำกำลังชุดสืบสวน พร้อมนำน.ส.อ้อย และด.ช.เอ ไปชี้จุดเกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุ ด.ช.เอ ชี้จุดเริ่มต้นที่กำลังซื้อขนมในร้านสะดวกซื้อ ถ.อำเภอ เขตเทศบาลนครอุดรฯ พร้อมบอกว่า เสร็จจากซื้อขนมแล้ว ขณะเดินออกมาจะกลับบ้าน เมื่อมาถึงทางเข้าสนามแบดมินตันของเอกชนแห่งหนึ่ง จู่ๆ มีชาย ผิวดำ หัวล้าน แต่งกายสกปรก สวมเสื้อสีชมพู นุ่งกางเกงยีนส์ ขายาว ถือมีดปลายแหลม เดินเข้ามาบีบคอ แล้วจับมือ ด.ช.เอ ไว้บังคับให้เดินไปที่คลองน้ำระยะทางประมาณ 300 เมตร ซึ่งติดกับกำแพงวัด มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นจำนวนมาก
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เมื่อเดินไปถึงสะพาน คนร้ายได้พา ด.ช.เอ เดินไปในคลองน้ำ ประมาณ 100 เมตร ก่อนเอามีดจี้คอ ด.ช.เอ แล้วทำการถอดกางเกงของ ด.ช. เอ ออกแล้วเอาครีมคล้ายวาสลีนทาที่ก้น ทำให้ ด.ช.เอ ร้องขึ้นด้วยความตกใจ ชายคนดังกล่าวโมโหจึงชกท้อง ด.ช.เอ พร้อมกับเอามีดจี้คอไว้ แล้วพยายามจะข่มขืนทางทวารหนักของ ด.ช.เอ แต่โชคดีที่มีพระสงฆ์ที่อยู่ในวัดได้ยินเสียงเด็กร้อง จึงปีนต้นไม้ขึ้นดู ทำให้ชายคนดังกล่าวเกิดอาการตกใจ
พระได้ตะโกนถามมาว่า จะทำอะไรเด็ก ชายดังกล่าวจึงได้วิ่งหลบหนีไป จากนั้นพระสงฆ์ในวัดจึงให้คนที่วัดนำ ด.ช.เอไปส่งบ้าน และเมื่อ น.ส.อ้อยฯ น้าสาว กลับมาบ้านทราบเรื่องดังกล่าว จึงสอบถามหลานชาย แล้วนำมาแจ้งความดังกล่าว
น.ส. อ้อย ให้การว่า พี่ชายได้หย่ากับภรรยาแล้วได้นำด.ช. เอ มาให้ตนและพ่อ ดูแลเลี้ยงดูตั้งแต่เกิด โดยในวันนี้ ได้มีงานเผาศพลุง ที่วัด แล้ว ด.ช.เอ หลานชาย ได้ไปที่วัดด้วย ต่อมาในช่วงเวลา 14.30 น.หลานชายได้ออกไปซื้อขนม ที่ร้านสะดวก แล้วจะเดินกลับบ้านเองคนเดียว แล้วไปเจอไอ้โรคจิต บังคับ พาไปเพื่อจะข่มขืนทางทวารหนักที่คลองน้ำข้างกำแพงวัด ใช้มีดจี้คอ และทำร้ายร่างกาย ด้วยการชกท้อง แต่โชคดีที่พระ มาพบเสียก่อน ทำให้คนร้ายวิ่งหนีออกมา
ร.ต.อ.ชนาธิป บัวเข็ม กล่าวว่า หลังจากสอบปากคำเบื้องต้น จาก ด.ช.เอ และน้าสาว ของเด็ก จึงได้เดินทางไปตรวจดูจุดที่เกิด พร้อมกับถ่ายรูปเอาไว้เป็นหลักฐาน โดยได้ทำหนังสือส่งตัว ด.ช.เอ ไปตรวจหาร่องรอยการถูกกระทำชำเรา ที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี หลังจากนั้นก็ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สหวิชาชีพ ร่วมกันสอบปากคำ ด.ช.เอ อย่างละเอียด และก็ให้ชุดสืบสวน ทำการตรวจกล้องวงจรปิด เส้นทางที่คนร้ายเดินทางมาเจอด.ช.เอ และหลบหนีไป เพื่อหาเบาะแส ในการติดตามตัว มาดำเนินคดี ตามกฎหมายต่อไป
