ช็อกซ้ำสอง! 6 ล้อตกร่องระบายน้ำ จู่ๆ ปิกอัพฝ่าฝนแหกโค้ง พุ่งใส่ วิ่งหนีตายกระเจิง โชคดีไม่มีใครได้รับอันตราย เจ้าหน้าที่เผยถนนสายนี้มักเกิดอุบัติเหตุแทบจะทุกวัน
ปิกอัพฝ่าฝนแหกโค้ง วันที่ 30 ก.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พะวอ จ.ตาก ได้รับแจ้งอุบัติเหตุ ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 25 ถนนสายแม่สอด-ตาก จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด และหน่วยกู้ชีพหลายหน่วย เดินทางไปตรวจสอบ พบรถกระบะโตโยต้า หมายเลขทะเบียน กว-211 นนทบุรี พุ่งชนกับคันดินแนวทางโค้งจุดอันตรายตกลงไปในร่องระบายน้ำภูเขา สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน ส่วนภายในรถพบ นายมนัส ท้าวลา อายุ 34 ปี คนขับรถได้รับบาดเจ็บที่ขา หน่วยกู้ชีพแม่สอดเข้าให้การช่วยเหลืออาการปลอดภัย
ขณะเดียวกันฝนก็ยังคงตกหนักอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สอด จ.ตาก รับแจ้งมีอุบัติเหตุอีกจุด โดยอุบัติเหตุรอบที่ 2 นี้เกิดบริเวณแนวทางโค้งลงภูเขาซึ่งเป็นจุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 20 ถนนสายแม่สอด-ตาก ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุก 6 ล้อ สีแดง หมายเลขทะเบียน 70-7959 เชียงราย แหกโค้งพุ่งตกลงไปในร่องระบายน้ำภูเขาด้านข้างรถพังเสียหาย โดยมี นายอดุลย์ ภักดี อายุ 32 ปี เป็นคนขับ ซึ่งมาพร้อมภรรยา ทั้ง 2 ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย เจ้าหน้าที่เข้าให้การช่วยเหลือ
แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เนื่องจากระหว่างที่เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายพร้อมคนขับรถบรรทุกคันเกิดเหตุกำลังสำรวจความเสียหาย และยืนอำนวยความสะดวกบนถนนท่ามกลางสายฝนที่ยังคงตกอย่างต่อเนื่อง ได้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนโดยมีรถยนต์กระบะมาสด้า สีขาว หมายเลขทะเบียน 2ฒธ-4313 กรุงเทพมหานคร ที่ขับฝ่าสายฝนลงทางโค้งภูเขาจุดที่เพิ่งเกิดอุบัติเหตุไปไม่นาน โดยรถกระบะได้เสียการควบคุมแหกโค้งหมุนด้วยความเร็วสูงพุ่งชนรถบรรทุก 6 ล้ออย่างแรง ก่อนรถกระบะจะหมุนกลับมาที่ฝั่งเจ้าหน้าที่และหน่วยกู้ภัยยืนอยู่ เสียงชนดังสนั่นถนนจนทำให้เจ้าหน้าที่และคนขับรถบรรทุก 6 ล้อ ต้องรีบวิ่งหนีตาย รอดไปอย่างหวุดหวิด
จากการสอบถาม นายสนธยา ณ ลำปาง อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นคนขับรถกระบะคันที่เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุตนพร้อมภรรยาได้ขับรถไปส่งลูกชายที่ จ.ตาก และระหว่างทางขากลับบ้านที่กำลังขับรถเข้าตัวอำเภอแม่สอด ได้เกิดฝนตกหนัก จนขับรถมาถึงทางโค้งจุดเกิดเหตุรถเกิดลื่นและหมุนด้วยความเร็วข้ามเลนพุ่งชนรถบรรทุก 6 ล้อที่เกิดอุบัติเหตุไปก่อนหน้านี้อย่างแรงจนทำให้คนที่ยืนบนถนนหลายคนต้องวิ่งหนีตายแบบไม่คิดชีวิต ส่วนตนและภรรยาไม่ได้รับบาดเจ็บเนื่องจากคาดเข็มขัดนิรภัย
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
ด้านเจ้าหน้าที่กล่าวว่า ถนนสายแม่สอด-ตาก เป็นเส้นทางภูเขาระยะทางยาวกว่า 90 กิโลเมตร ตลอดเส้นทางมีป้ายเตือนจุดอันตรายเกือบตลอดเส้นทางเนื่องจากถนนสายนี้มักเกิดอุบัติเหตุแทบจะทุกวัน โดยเฉพาะวันฝนตกหนักจะเกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเท่า เจ้าหน้าที่จึงขอให้ผู้ขับขี่รถทุกชนิดให้เช็คสภาพรถให้พร้อมรวมทั้งคนขับต้องพร้อมขับในสภาพเส้นทางภูเขา และขอให้ผู้ขับขี่รถทุกชนิดปฏิบัติตามป้ายเตือนจุดอันตรายอย่างเคร่งคัดเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
