ชวนตายพร้อมกัน! เมียไม่ไปด้วย หนุ่มส่งรูปสุดท้ายบอกลา ก่อนจบชีวิตลำพัง

เมื่อวันที่ 7 ต.ค. ร.ต.อ.ศุภชัย บุญธรรม รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองระนอง รับแจ้งเหตุมีคนผูกคอเสียชีวิต ภายในบ้านเลขที่ 89/8 ซอยหัวท่า ม.2 ต.บางนอน อ.เมือง จ.ระนอง จึงประสานงานกำลังชุดสืบสวน สภ.เมืองระนอง, แพทย์นิติเวช รพ.ระนอง และหน่วยกู้ภัย มูลนิธิระนองสงเคราะห์ รุดตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านหลังเดี่ยวริมถนน ภายในซอยหัวท่า ริมคลองบางนอน บริเวณหน้าบ้านมีการต่อเติมเป็นเพิงไม้ชั้นลอย ทาสีฟ้า เพื่ออาศัยอยู่ด้านบน ริมถนนหน้าบ้านพบรถยนต์นิสสัน รุ่น อัลเมร่า สีดำ หมายเลขทะเบียน กค 7458 ระนอง ถูกทุบกระจกแตกเสียหายรอบคัน ทั้งบานหน้า, บานหลัง และกระจกประตูด้านข้างส่วนบนชั้นลอยที่พัก เจ้าหน้าที่ขึ้นไปสำรวจ พบศพนายพนม อายุ 40 ปี อาชีพรับจ้างขับรถแม็คโคร และเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว สวมกางเกงยีนส์และเสื้อยืดคอกลมสีขาว ผูกคอตัวเองด้วยเชือกไนล่อน กับขื่อคาหลังคา ก่อนทิ้งตัวลงนั่งในลักษณะแอ่นตัวไปด้านหน้า บนพื้นบ้านยังพบเศษกระเบื้องขวดเบียร์แตก และโทรศัพท์มือถือของผู้ตายที่ทุบหน้าจอพังตกอยู่ใกล้ตัว

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

หลังทำการบันทึกภาพในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้นำร่างผู้เสียชีวิตลงมาชันสูตรพลิกศพที่ชั้นล่างใต้เพิงพัก โดยสภาพศพมีลิ้นจุกปาก และเสียชีวิตเนื่องจากขาดอากาศหายใจมาไม่ต่ำกว่า 8-12 ช.ม. ทางญาติไม่ติดใจถึงสาเหตุการตายของนายพนม เพราะก่อนหน้าเคยมีอาการทางจิตเวช และมักจะทำลายข้าวของ รวมทั้งข่มขู่คนใกล้ชิดว่าจะทำร้ายตัวเอง แต่อาการยังไม่รุนแรงมาก

สอบสวนเบื้องต้น น.ส.นิภา ภรรยาผู้เสียชีวิต ให้การว่า ผู้ตายมีอาชีพรับจ้างขับรถแบคโฮที่ต่างจังหวัด เมื่อวานผู้ตายโทรศัพท์มาตามง้อตน หลังจากขอแยกทางกันเมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา เนื่องจากทนแรงหึงหวงและทำลายข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวของตนไม่ได้ ก่อนหน้าเคยข่มขู่ว่าจะฆ่าตัวเองตายมาหลายครั้ง ด้วยอาวุธมีดและอาวุธอื่นๆ จนเป็นสาเหตุที่เลิกรากับภรรยาคนเก่าเช่นกัน น.ส.นิภา กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ผู้ตายส่งข้อความมาชวนให้มาตายพร้อมกัน ตนก็ไม่ยอมไป เมื่อช่วงค่ำวันนี้ ตนพามารดาของตนไปพบแพทย์ที่ รพ.ระนอง เนื่องจากป่วยด้วยโรคหอบหืด ผู้ตายก็โทรตามตลอด แต่ตนบอกว่าทางโรงพยาบาลให้งดใช้เสียง จึงมีการส่งข้อความแทน ผู้ตายก็บอกว่าจะฆ่าตัวตาย และข่มขู่แบบนี้มาหลายครั้ง แต่เขาไม่ได้ทำ ตนจึงไม่คิดว่าจะทำจริง กระทั่งเมื่อคืนวันที่ 6 ต.ค. เขาถ่ายส่งรูปรถที่ตัวเองทุบกระจกรอบคันมาให้ ก่อนบอกลาและส่งรูปตัวเองที่มีบ่วงคล้องคอมาอีก จนรุ่งเช้าตนโทรไปก็ไม่รับสายแล้ว ต่อมาช่วงบ่าย น.ส.นิภา เข้าไปหาถึงบ้านจึงรู้ว่าผู้ตายผูกคอเสียชีวิตแล้ว โดย น.ส.นิภา กล่าวว่า ตอนแรก แม่ที่อยู่ข้างบ้านติดกัน ให้หลานข้างบ้านไปผลักประตูดู แต่ไม่สามารถเปิดประตูได้เหมือนเขาล็อกประตูด้านในไว้ แต่พอตนมาผลักประตูเพียงเบาๆ ประตูก็เปิดออกมาได้ เมื่อคืนที่ผ่านมา ตนก็คุยทางโทรศัพท์ว่า ถ้าตนทำอะไรผิดไป ให้อโหสิให้ด้วย แต่นายพนมบอกว่าไม่เอา ไม่ยอมอโหสิให้ ให้ติดตัวตนไป น.ส.นิภา กล่าอีกว่า ก่อนหน้าที่จะเลิกกัน นายพนมได้ขว้างทั้งกระเป๋า พัดลม และของใช้อื่นๆ จนพังหมด ตนเลยตัดสินใจว่าถ้าทำแบบนี้ก็ไม่น่าอยู่ด้วยกันแล้ว จึงตัดสินใจเลิก ตนยังมานั่งร้องไห้ แล้วบอกแม่ของนายพนมว่า ตนไปแล้วนะ แม่ก็บอกว่าไปเถอะด้านมารดาของนายพนม ซึ่งอยู่บ้านข้างเคียง กล่าวว่า ไม่ได้ติดใจในสาเหตุของการเสียชีวิตของลูกชาย เขาเคยพูดมาหลายครั้งแล้ว เคยเอาทั้งยา ทั้งมีด ถ่ายรูปในรถมาให้ดูว่าจะฆ่าตัวตาย บางครั้งเขาจะเครียดมาก เหมือนกับเป็นผู้ป่วยจิตเวช แต่ไม่เคยไปพบแพทย์ ตนยังคิดกันอยู่กับแฟนเขา หากเขามาทำร้ายร่างกายจะแจ้งให้ตำรวจมาจับส่งโรงพยาบาลเลย แต่ไม่ทันได้แจ้งหรือทำอะไร เขาก็ฆ่าตัวตายก่อน

เมื่อทางญาติไม่ติดใจสาเหตุของการเสียชีวิต ทางร้อยเวร พงส.สภ.เมืองระนอง และแพทย์นิติเวช รพ.ระนอง ได้มอบร่างผู้เสียชีวิตให้กับทางครอบครัว เพื่อนำไปดำเนินการตามประเพณีต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน