อาก้าถล่ม อดีตผู้ใหญ่บ้าน ดับคาร้านน้ำชา ปล้นปืนหนี หลังลูก-น้องชายก็เพิ่งถูกยิงตาย ชาวบ้านเผย 4 คนร้้ายแต่งชุดดำ คิดว่าเป็นเจ้าหน้าที่ ก่อนลงมือเหี้ยม
อดีตผู้ใหญ่บ้าน วันที่ 12 ต.ค. ร.ต.ท.เริงศักดิ์ ชาติสุขศิริเดช รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิต ที่ร้านน้ำชา หมู่ 4 ต.พ่อมิง อ.ปะนาเระ จว.ปัตตานี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.จิรวัฒน์ พยุงธรรม ผบก.ภ.จ.ปัตตานี, พ.อ.สมคิด คงแข็ง ผบ.ฉก.ทพ.44 และกำลังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
ที่เกิดเหตุพบเป็นร้านน้ำชาสร้างเป็นเพลิงไม้ ภายในร้านพบผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อคือ นายคอเดร์ มะแด อายุ 63 ปี มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธสงครามเข้าที่ลำตัวหลายนัด และกระสุนยังพลาดไปถูกผนังของร้านและข้าวของเสียหาย ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนอาก้า จำนวน 6 ปลอก เจ้าหน้าที่ได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ตายเป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ดังกล่าว และได้เกษียณไปแล้ว 3 ปี โดยปัจจุบันมีอาชีพเกษตรกร ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้เดินทางออกจากบ้านมานั่งร้านน้ำชาทุกวัน โดยในร้านมีชาวบ้านนั่งโต๊ะข้างๆ จำนวน 5 คน ปรากฏว่ามีคนร้าย 4 คน แต่งกายชุดดำพร้อมอาวุธปืนยาวใช้รถจยย. 2 คัน มาจอดหน้าร้าน โดยชาวบ้านคิดว่าเป็นเจ้าหน้าที่ ทำให้ไม่มีใครเอะใจรวมไปถึงผู้ตาย จากนั้น 1 ในคนร้ายได้ลงมาจากรถ เดินตรงเข้าหาผู้ตายก่อนชักปืนขึ้นมาจ่อยิงผู้ตายทันทีหลายนัดต่อหน้าชาวบ้านที่นั่งอยู่ในร้านต่างตกใจวิ่งหนีตายไปคนละทิศละทาง หลังจากนั้นคนร้ายได้ค้นตัวผู้ตาย ก่อนจะขโมยอาวุธปืนขนาด 9 มม.หลบหนีไปด้วย
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.จิรวัฒน์ ได้สั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ทหารกระจายกำลังออกไล่ล่าคนร้ายตามเบาะแสที่ชาวบ้านแจ้งข้อมูล รวมไปถึงให้ชุดสืบสวนสอบสวนลงพื้นที่สอบสวนพยานในที่เกิดเหตุและเก็บวัตถุพยานให้มากที่สุด ทั้งนี้เชื่อว่าช่วงเกิดเหตุน่าจะมีคนเห็นรูปพรรณคนร้ายและเชื่อคนร้ายน่าจะเป็นกลุ่มก่อความไม่สงบในพื้นที่ เนื่องจากรู้พื้นที่และเส้นทางหลบหนี
นอกจากนี้ลูกชายของผู้ตายก็เคยเป็นอาสาสมัครรักษาดินแดนและถูกลอบยิงเสียชีวิต ส่วนน้องชายที่เป็นผู้ใหญ่บ้านก็ถูกยิงเสียชีวิต ทำให้ผู้ตายเกิดความระแวงจึงพกปืนไปไหนมาไหนด้วยตลอด กระทั่งมาถูกยิงเสียชีวิตไปอีกคน ส่วนสาเหตุเบื้องต้นน่าจะเป็นฝีมือกลุ่มก่อความไม่สงบพยายามสร้างสถานการณ์ โดยที่ติดตามดูความเคลื่อนไหวของผู้ตายและรู้ว่าจะมานั่งร้านน้ำชาเป็นประจำ เมื่อสบโอกาสจึงได้ก่อเหตุดังกล่าว
