หิ้วสอบ หนุ่มต้องสงสัย ร่วมทีม ฆ่าผู้ช่วย ส.ส.ภูมิใจไทย เผยปมประมูลงาน และคนตายเข้าไปเกี่ยวข้องกับการจ้างวานฆ่ามาเชื่อมโยงกัน เร่งขยายผลหาผู้จ้างวาน
ฆ่าผู้ช่วย ส.ส.ภูมิใจไทย จากกรณีนายสุนทร เรืองแก้ว อายุ 50 ปี ชาว อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ ในพื้นที่พัทลุง และเป็นผู้ช่วย นายฉลอง เทิดวีระพงษ์ ส.ส.พัทลุง เขต 2 พรรคภูมิใจไทย ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนสงครามเอ็ม 16 ถล่มยิงเสียชีวิตคารถมิตซูบิชิ ปาเจโร่ สีดำ ทะเบียน กก 1999 พัทลุง เหตุกิดขึ้นที่สวนผสม ริมถนนสายหัวถนนท่านช่วย-ชะรัด หมู่ 6 ต.นาท่อม อ.เมือง จ.พัทลุง เมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปนั้น อ่านข่าว อุกอาจ! คนร้ายควงเอ็ม 16 ยิงถล่ม ผู้ช่วยส.ส.พรรคภูมิใจไทย ดับคารถ เผยปมสังหารโหด
ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 6 พ.ย. พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี ผบก.ภ.จว.พัทลุง นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทะเลน้อย จ.พัทลุง เข้าควบคุมตัว นายประเสริฐ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี ได้ที่ในพื้นที่หมู่ 10 ต.พนางตุง อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ก่อนนำตัวมาสอบปากคำ หลังถูกซัดทอดว่า เป็น 1 ในกลุ่มมือปืนที่ก่อเหตุยิง นายสุนทร โดยคาดว่าทำหน้าที่เป็นคนขับรถ พร้อมกันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดรักษาความสงบของหมู่บ้าน และผู้นำท้องถิ่น กระจายกำลังกันติดตามรถเก๋งโตโยต้า วีออส สีบรอนซ์ ที่ใช้ในการก่อเหตุ ซึ่งเชื่อว่ายังคงอยู่ในพื้นที่ อ.ควนขนุน และเขตรอยต่อ อ.ระโนด จ.สงขลา
พล.ต.ต.กฤษฎา กล่าวว่า จากการสอบขยายผลและรวบรวมพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้ล่าสุดศาลพัทลุงอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวแล้ว 3 คน และเมื่อช่วงเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหา 1 ใน 3 ผู้ก่อเหตุ ที่ออกหมายจับไว้ได้แล้ว จำนวน 1 คน ในพื้นที่ จ.สงขลา และผู้ต้องหาให้การเป็นประโยชน์และเจ้าหน้าที่กำลังเร่งสอบขยายผลไปยังผู้ที่ร่วมก่อเหตุที่เหลือ ส่วนมูลเหตุที่ทำให้ก่อเหตุเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นความขัดแย้งเรื่องการประมูลงานและมีเรื่องเดิมที่มีการกล่าวอ้างว่า ผู้ตายเข้าไปเกี่ยวข้องกับการจ้างวานฆ่ามาเชื่อมโยงกัน เพราะว่าคนในพื้นที่รู้จักกันหมด เสมือนเป็นญาติพี่น้องกัน
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
ทั้งยังเชื่อว่าพฤติกรรมของการก่อเหตุ เชื่อว่าเป็นการกระทำของกลุ่มมือปืนโดยมีการจ้างวาน ต่อไปก็จะขยายผลไปยังผู้จ้างวาน ส่วนการทำงานตอนนี้พุ่งเป้าไปที่บุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้ง 3 คนก่อน ซึ่งเป็นบุคคลที่ออกหมายจับแล้วทั้ง 3 คน เป็นกลุ่มบุคคลที่ลงมือก่อเหตุทั้งหมด
