เปิดภาพวงจรปิด กลุ่มวัยรุ่นเเพื่อนบ้าน ไล่ตีกลางถ.สุขสวัสดิ์ รุมฟันอริไม่ยั้ง สับเละ! ปางตาย

จากกรณีเหตุ กลุ่มวัยรุ่นชาวเมียนมา ใช้อาวุธมีดรุมท้ายร้ายกันมีผู้บาดเจ็บสาหัส ปากซอยสุขสวัสดิ์ 47/1 ต.บางครุ อ.พระประแดง จ,สมุทรปราการ เมื่อช่วงตี1 วันที่ 10 พ.ย. ที่ผ่านมา พบผู้บาดเจ็บเป็นชาย 2 ราย อายุ 28 ปี ชาวเมียนมา นอนจมกองเลือด ถูกมีดฟันเข้าที่ศีรษะใบหน้าคอและลำตัวเกือบ 10 แผล ส่วนเพื่อนอีกคนที่มาด้วยกันถูกฟันแต่ไม่ได้รับบาดเจ็บและวิ่งหนีไปได้

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ล่าสุด วันที่ 11 พ.ย. ตำรวจ สภ.พระประแดง สามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้ทั้งหมด 4 ราย เป็นชาวเมียนมา ทั้งหมดไม่มีเอกสารหรือพาสปอร์ตประจำตัว แล้วตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุพบอาวุธมีดจำนวน 3 เล่มและกรรไกรจำนวน 1 เล่ม ส่วนอาวุธที่พบนั้นยังมีคราบเลือดของผู้ได้รับบาดเจ็บติดอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นจึงนำตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 4 รายไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่โรงพัก

ส่วนผู้บาดเจ็บเป็นชาวเมียนมาอายุ 28 ปี ยังไม่ทราบชื่อและไม่พบเอกสารหลักฐาน อาการยังสาหัสนอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ.บางปะกอก 3 ส่วนเพื่อนอีกคนที่มาด้วยกันและวิ่งหลบหนีไปได้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ทางเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามตัวเพื่อมาสอบปากคำเพิ่มเติม

ส่วนความคืบหน้าของคดีทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข้อมูลเพิ่มเติม โดยกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพกลุ่มคนร้ายเป็นชาย 4 คน พร้อมอาวุธมีดรุมฟันผู้บาดเจ็บอย่างไม่ยั้ง ชณะที่กลุ่มผู้ก่อหตุ ทราบชื่อคือ นายวียังเทก อายุ 20 ปี นายจอเละนาย อายุ 18 ปี นายออเยแต อายุ 20 ปี นายโซเวนนอง อายุ 19 ปี เบื้องต้นแจ้งข้อหาหลบหนีเข้าเมือง แล้วจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ เชิญล่ามภาษามาสอบปากคำ

ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ได้ให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง ส่วนสาเหตุที่ทราบมาว่า ก่อนหน้านี้ทั้งสองฝ่ายเคยมีเรื่องกันแถว ลาดพร้าว เพราะฝ่ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้เคยถูกฝ่ายผู้ได้รับบาดเจ็บทำร้ายมาก่อน จนฝ่ายผู้ก่อเหตุมาทำงานอยู่แถวพระประแดง และฝ่ายผู้ได้รับบาดเจ็บทำงานอยู่แถวพระสมุทรเจดีย์ และได้มาเจอกันที่งานอะไรกระทงวัดครุใน

ฝ่ายผู้ก่อเหตุเห็นว่าฝ่ายผู้รับบาดเจ็บมาเที่ยวงานที่วัดครุในจึงได้รอดักทำร้ายร่างกาย ทนให้เป็นเหตุดังกล่าวขึ้น ส่วนในขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนจะสอบปากคำเพิ่มเติม และต้องรอผลการรักษาของผู้บาดเจ็บอีกครั้ง ก่อนจะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน