แม่ช็อกเห็น ลูกไม่มีหัว หลานเจอหนักกว่า ใส่ชุดขาวเดินวนเวียน แถมมีแต่ตัว ก่อนไปเที่ยวลอยกระทง เช้าเจอเป็นศพ ถูกกระจกตู้กับข้าวบาดแขน

ลูกไม่มีหัว วันที่ 12 พ.ย. พ.ต.ต.ศิริชัย โพธิจักร สารวัตร (สอบสวน) สภ.ห้วยหลวง จ.อุดรธานี ได้รับแจ้งว่ามีคนเสียชีวิตที่บ้านหลังหนึ่ง พื้นที่บ้านเชียงยืน หมู่ 14 ต.เชียงยืน อ.เมือง จ.อุดรธานี จึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวร ร.พ.ศูนย์อุดรธานี เจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างเมธาธรรม

ที่เกิดเหตุพบว่าเป็นบ้านไม้ยกพื้นสูง ที่บริเวณใต้ถุนบ้าน พบศพ นายพินิจ สร้อยสะใบ อายุ 45 ปี ลูกชายเจ้าของบ้าน สภาพไม่สวมเสื้อผ้า นอนคว่ำหน้าจมกองเลือด ที่แขนซ้ายมีบาดแผลขนาดใหญ่และลึกมาก จนทำให้เลือดไหลออกมาไม่หยุด ใกล้กันมีกระจกตู้กับข้าวแตกกระจัดกระจายและมีรอยคราบเลือด ส่วนเสื้อผ้าที่ผู้ตายใส่ถูกถอดอยู่ในกะละมัง

จากการสอบสวน นางหลั่น มูลพิทักษ์ อายุ 69 ปี เจ้าของบ้านและเป็นแม่ของผู้ตายให้การว่า ผู้ตายเป็นลูกคนโตในพี่น้อง 4 คน และขณะนี้ทำงานอยู่ที่การไฟฟ้าอุดรธานี ยังไม่มีครอบครัว โดยเมื่อวานเป็นวันลอยกระทง ช่วงหัวค่ำลูกชายบอกว่าจะออกไปเที่ยวงานลอยกระทงในหมู่บ้าน จากนั้นตนก็เข้านอน

จนมาเช้ามืดวันนี้ตื่นมาจะไปนึ่งข้าวเหนียวเพื่อจะไปทำบุญที่วัด ก็เห็นเหมือนอะไรอยู่ที่พื้น ตอนแรกคิดว่าใครเอาหมูมาฆ่าในบ้าน เพราะมีเลือดไหลนองเต็มพื้นไปหมด เมื่อเข้ามาดูใกล้ๆ ก็พบว่าเป็นลูกชายนอนอยู่ จึงร้องให้คนช่วย ตอนแรกคิดว่ามีคนตามมาฆ่า ก่อนหน้านี้เมื่อต้นปี ตนเคยเห็นลูกชายยืนอยู่ในบ้านมีแต่ตัวไม่มีหัว ด้วยความกลัวว่าจะเป็นลางไม่ดี

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ขณะที่ นายนฤชา ท้ามะลิ อายุ 27 ปี หลานชาย บอกว่า ก่อนหน้านี้เคยมานอนที่บ้าน และช่วงเวลา 03.00 น.ขณะที่เขาลุกเข้าห้องน้ำ ก็เห็นผู้ตายแต่งชุดขาว มีแต่ตัวไม่มีหัวเดินวนไปมาอยู่ในบ้าน ด้วยความกลัวจึงรีบเข้าบ้านนอนแล้วบอกแม่ของผู้ตาย จากนั้นก็เห็นแม่ของผู้ตายพาไปรดน้ำมนต์ทำพิธีต่อดวงชะตาที่วัด ก็คิดว่าไม่มีอะไรแล้ว จนกระทั่งมาเสียชีวิตดังกล่าว

ด้าน พ.ต.ต.ศิริชัย เปิดเผยว่า เบื้องต้นคาดว่า ผู้ตายกลับมาจากลอยกระทง แล้วถอดเสื้อผ้าจะอาบน้ำ แต่ได้ลื่นล้มแล้วเสียหลักไปถูกตู้กับข้าวทำให้กระจกแตก แล้วทำให้กระจกแทงแขนจนลึกไปถูกเส้นเลือดใหญ่จนเลือดไหลไม่หยุด ก่อนหมดสติแล้วไม่มีใครเห็นกระทั่งมาเสียชีวิต เบื้องต้นได้ส่งศพไปชันสูตรที่ ร.พ.ศูนย์อุดรธานี เพื่อหาสาเหตุการตายที่แน่ชัดอีกครั้งต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน