ครู-แฟนสาวช้ำ เป็นหนี้กว่าล้าน ถูกเมียอดีตตำรวจ หลอกถอยรถ ให้ สุดท้ายไม่ส่งค่างวด ไฟแนนซ์ตามทวง ไปหาที่บ้านถูกขู่แจ้งจับบุกรุก แจ้ง 5 โรงพักเรื่องกลับเงียบ

หลอกถอยรถ วันที่ 1 ธ.ค. นายฉัตรชัย ชัยเสนา อายุ 35 ปี ข้าราชการครูโรงเรียนแห่งหนึ่ง พร้อมด้วย น.ส.พิมพ์อักษร เรืองเดช อายุ 28 ปี แฟนสาว ซึ่งเป็นอดีตพนักงานฝ่ายสินเชื่อ ธนาคารชื่อดัง ได้นำเอกสารหลักฐาน ข้อความการแชทสนทนา ออกมาร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนเพื่อขอความช่วยเหลือ หลังถูกหลอกให้ออกรถเป็นหนี้กว่า 1 ล้านบาท

นายฉัตรชัย กล่าวว่า ได้ถูก น.ส.โชติมณี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี ภรรยาของอดีตนายตำรวจยศ พ.ต.ท. ซึ่งเคยปฏิบัติหน้าที่อยู่โรงพักแห่งหนึ่งใน จ.สุรินทร์ ทั้งยังอ้างตัวว่าเป็นเจ้าของบริษัทค้าข้าวชื่อดัง และยังเคยเป็นลูกค้าของธนาคารที่แฟนสาวเคยทำงานอยู่ ได้มาหลอกล่อให้แฟนสาว ใช้ชื่อออกรถยนต์ฮอนด้า ซีอาร์วี จากเต็นท์รถให้ โดยอ้างว่าชื่อของตัวเองติดเครดิตบูโรไม่สามารถออกได้ ทั้งยังหลอกล่อว่าหากออกรถให้ได้จะรับแฟนสาวตนเข้าทำงานเป็นเสมียนที่บริษัทค้าข้าว

ซึ่งตอนนั้นแฟนสาวกำลังตกงานเพราะลาออกจากธนาคารแล้ว จึงมีความหวังว่าจะได้ทำงาน แต่พอตรวจสอบแล้วเครดิตของแฟนสาวกลับไม่ผ่าน แต่ภรรยาอดีตนายตำรวจก็ยังคะยั้นคะยอให้ใช้ชื่อของตนแทน ซึ่งตอนแรกตนก็อยากจะปฏิเสธเพราะกลัวจะมีปัญหา แต่ด้วยความที่อยากจะให้แฟนได้ทำงาน ประกอบกับ ภรรยาอดีตตำรวจรับปากว่าภายใน 3 เดือนจะปิดยอดให้ทั้งหมด จึงยอมตกลง แต่ในใจก็คิดว่าเครดิตไม่น่าจะผ่านอยู่แล้ว เพราะตนก็กู้ธนาคารและยังเป็นหนี้อยู่จำนวนมาก แต่พอนำเอกสารไปทำเรื่องกลับผ่าน ก็ยังรู้สึกแปลกใจว่าผ่านได้ยังไง

หลังจากนั้นก็มีการทำเรื่องซื้อขายรถตามปกติ โดยใช้ชื่อของตนเป็นผู้เช่าซื้อ จากนั้นก็ส่งมอบรถเมื่อกลางเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา หลังจากรับมอบรถ ภรรยาอดีตตำรวจก็เป็นคนนำรถไปใช้งานตลอด คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ภรรยาอดีตตำรวจก็ยังไม่เห็นเรียกตัวแฟนสาวตนเข้าไปทำงานที่บริษัทตามที่เคยพูดไว้ กระทั่งเมื่อต้นเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา บริษัทไฟแนนซ์ได้โทรมาทวงถามค่างวดรถ บอกว่าค้างค่างวดมา 3 เดือนแล้ว ซึ่งตามที่ระบุไว้ในสัญญาจะต้องจ่ายงวดละ 11,921 บาท ก็รู้สึกตกใจมาก

จากนั้นตนและแฟนสาวก็โทรศัพท์ไปสอบถามภรรยาอดีตตำรวจว่าทำไมไม่ชำระค่างวดรถ ซึ่งภรรยาอดีตตำรวจก็พยายามบ่ายเบี่ยง กระทั่งตัดสินใจไปที่บ้านเพื่อจะขอรถคืน แต่กลับถูกขู่ว่าจะแจ้งกลับฐานบุกรุกด้วย หลังจากนั้นจึงได้นำเอกสารหลักฐานไปแจ้งความที่โรงพักใน จ.อุบลราชธานี เพราะเป็นท้องที่ที่ไปซื้อรถมาจากเต็นท์ แต่ตำรวจบอกว่าเกิดเหตุที่ไหนให้ไปแจ้งความที่นั่น จากนั้นจึงไปแจ้งลงบันทึกไว้ทั้งที่ สภ.พนมดงรัก สภ.เมืองสุรินทร์ สภ.บ้านกรวด และ สภ.ประโคนชัน จ.บุรีรัมย์ รวมถึงไปแจ้งกับทางกองปราบ แต่เรื่องก็ยังเงียบ เจ้าหน้าที่บอกแค่ว่าเป็นคดีแพ่งให้ไปฟ้องร้องเอาเอง

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

พวกตนจึงตัดสินใจนำเรื่องมาร้องเรียนผ่านสื่อ เพราะอยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง และผู้รู้กฎหมายช่วยเหลือด้วย เพราะหากภรรยาอดีตตำรวจไม่จ่ายงวดก็อยากให้เอารถคืนบริษัท เพราะหากไม่จ่ายตนจะต้องแบกรับภาระทั้งค่างวด ดอกเบี้ยเป็นเงินกว่า 1 ล้านบาท ก็อยากจะให้ ตร.ช่วยติดตามรถคืนให้ด้วย เชื่อว่าอาจจะเป็นขบวนการหลอกซื้อรถไปขายประเทศเพื่อนบ้าน และน่าจะมีคนตกเป็นเหยื่อหลายราย อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบประวัติภรรยาอดีตตำรวจที่อ้างว่าเป็นเจ้าของบริษัทค้าข้าว มีคดีถูกฟ้องร้องอยู่ 3 คดี ส่วน พ.ต.ท.ที่เป็นสามี ก็มีคดีถูกฟ้องร้องอยู่ 1 คดี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน