เมียทรุด! ลางร้ายรูปหัวขาด หนุ่มแรงงานไทยดับที่ไต้หวัน เพิ่งผ่านวันเกิดได้แค่ 2 วัน เผยแช็ตสุดท้าย ที่ไม่ได้เปิดอ่าน และไม่มีวันได้ตอบกลับมาอีกเลย เตรียมบินไปเผาศพ

แรงงานไทยดับที่ไต้หวัน วันที่ 3 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเกิดอุบัติเหตุที่ไซต์งานก่อสร้างของบริษัท PAN ASIA CORPORATION ในประเทศไต้หวัน ขณะที่แรงงานไทย 6 คน และแรงงานชาวไต้หวัน 1 คน กำลังขนย้ายก้อนปูนขนาดใหญ่โดยเรือ เพื่อลากไปถ่วงยังสถานีรับและเก็บแก๊สกลางทะเล แต่ระหว่างทางเกิดอุบัติเหตุ ทำให้แรงงานทั้งหมดร่วงตกลงไปในทะเล มีแรงงานไทย 3 คนจมน้ำเสียชีวิต คือ นายพิพัฒน์ แสนโคตร อายุ 54 ปี ชาวบ้านบ้านคำอ้อ ต.บ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี, นายวรศักดิ์ ดัดคิด อายุ 41 ปี ชาว จ.สุโขทัย และ นายชโย หงษาวงษ์ อายุ 54 ปี ชาว จ.นครพนม และยังมีแรงงานไทยที่เหลือได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 คน และบาดเจ็บเล็กน้อย 2 คน เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 162 หมู่ 7 บ้านคำอ้อ ต.บ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นบ้านของ นายพิพัฒน์ พบกับ นางสุดารัตน์ แสนโคตร อายุ 40 ปี ภรรยาของ นายพิพัฒน์ ซึ่งยังอยู่ในอาการเศร้าโศกและเสียใจกับเหตุการณ์สูญเสียสามีไปอย่างไม่มีวันกลับ โดยมีญาติๆ เดินทางมาให้กำลังใจและพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และ นางสุดารัตน์กำลังจะเดินทางไปประเทศไต้หวันเย็นนี้

นางสุดารัตน์ เปิดใจทั้งน้ำตาว่า ก่อนเดินทางไปทำงานที่ไต้หวันสามีได้คุยกับตนว่า อยากไปทำงานเพื่อหาเงินมาใช้หนี้และเป็นทุนทำไร่ทำนาและส่งเสียลูกสาวคนเล็กที่เรียนอยู่ชั้น ม.1 ให้จบปริญญา ซึ่งแต่ก่อนสามีทำงานที่โรงงานน้ำตาลใกล้บ้านและเป็นช่วงฤดูปิดหีบ โดยสามีเดินทางไปทำงานไต้หวันเมื่อวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ได้เพียง 4 เดือนก็มาเกิดเรื่องน่าเศร้า แม้สามีจะไปทำงานต่างแดนแต่ตนและสามีก็คุยแช็ตกันทุกครั้ง จนล่าสุดเมื่อวันที่ 29 พ.ย. ซึ่งเป็นวันเกิดสามี ตนเองก็ทักไปเพื่ออวยพรวันเกิด พร้อมส่งรูปที่ถ่ายคู่กันไปให้ดู สามีก็ตอบมาว่า “เลิกงานห้าโมงตอนเที่ยงบ่ได้พักจ้าวันนี้ได้โอชั่วโมงเดียว วาแมนลืมวันเกิดพ่อแล้ว”

ต่อมาวันที่ 30 พ.ย.สามีก็ทักมาบอกว่าได้รับของขวัญวันเกิดแล้วจ้า ซึ่งกล่องพัสดุที่ส่งไปให้นั้นเป็นยาแก้โรคเกาต์ ตนก็ตอบไปว่า “ได้แล้วก็อย่ากินแต่เหล้ากินยาด้วย” สามีก็บอกว่า “เลิกกินเหล้าจะกินข้าวกับยาจ้า” นี่คือข้อความสุดท้ายได้คุยกับสามี เพราะต่อมาวันที่ 1 ธ.ค. เวลาประมาณ 17.32 น. ตนก็ทักไปหาบอกเรื่องซื้อเลขรถยนต์ แต่ไม่เห็นสามีตอบกลับมาเพราะปกติหลังเลิกงาน สามีจะอ่านข้อความและทักมาหาตลอดและคุยกันเป็นครึ่งชั่วโมงทุกวัน

จนหกโมงเย็นทางบริษัทจัดหาคนงานได้โทร.มาบอกว่าสามีเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตขณะทำงาน ตนถึงกับเข่าอ่อนร้องไห้แทบใจจะขาด ไม่คิดว่าเพิ่งผ่านพ้นวันเกิดเพียงแค่ 2 วันแท้ๆ จะได้ยินข่าวเศร้าที่เขาไม่มีวันหวนกลับมาอีกเลย และอีกอย่างก่อนวันเกิดสามีได้โพสต์รูปตัวเองลงในเฟซบุ๊กเป็นรูปสามีหัวขาด แต่หลานๆ เห็นสามีตนโพสต์รูปตัวเองเป็นคนหัวขาด หลานๆ ก็รีบแจ้งให้ลบ สามีก็ลบ แต่ไม่คิดว่าจะเป็นลางร้ายจนเขามาเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต

นางสุดารัตน์กล่าวต่อว่า เราแต่งงานอยู่ด้วยกันมา 10 กว่าปี สามีเป็นคนรักเมียและลูกๆ มาก ลูกมีสองคน ผู้ชายอายุ 19 ปีและผู้หญิงอายุ 13 ปี แต่ด้วยความจนเขาจึงอาสาไปทำงานยังต่างแดนเพื่อเก็บเงินมาให้เมียใช้หนี้และเป็นทุนให้ลูกๆ เรียนหนังสือ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โดยช่วงที่ให้สัมภาษณ์นักข่าว นางสุดารัตน์ถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ บอกว่า เขาส่งเงินมาให้เมียทุกเดือน เดือนแรกได้ 6,000 บาท เดือนที่ 2 ส่งมา เดือนที่ 3 และเดือนที่ 4 เขาบอกว่า เดือนนี้ได้เงินเยอะนะ เพราะมีโอ ได้ 47,000 บาท พ่อจะส่งให้แม่ 30,000 บาท ให้เอาไปใช้หนี้เขานะ แต่ยังไม่ได้ส่ง จนเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต ตนเสียใจมากไม่คิดเหตุการณ์สูญเสียสามีจะเกิดขึ้นกับตน สามีฝันว่า หากทำงานครบ 3 ปีที่ประเทศไต้หวันจะไปทำงานต่างประเทศครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายและกลับมาทำไร่ทำนาอยู่เป็นครอบครัวกับภรรยาและลูกๆ

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

โดยในช่วงเย็นวันนี้นางสุดารัตน์ แสนโคตร จะเดินทางเข้า กทม. เพื่อบินไปยัง ไต้หวัน กับบริษัทจัดหางาน ทีเอ็นวาย ไทร์นิตี้ ซึ่งเป็นคนส่งนายพิพัฒน์ไปทำงานที่ประเทศไต้หวัน คาดว่าจะทำพิธีฌาปนกิจที่ไต้หวันและนำกระดูกมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด จ.อุดรธานี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน