วันที่ 18 พ.ค. ร.ต.อ.กฤษณพล วัจนะพันธ์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.บางโทรัด จ.สมุทรสาคร ได้รับแจ้งว่ามีหญิงสาวถูกลวนลามบนรถตู้โดยสารสาธารณะ โดยผู้ก่อเหตุเป็นชายที่นั่งมาด้วยกันบนรถ ซึ่งรถตู้คันเกิดเหตุได้จอดอยู่บนถนนพระราม 2 ขาออก กทม. ช่วงกม.ที่ 49 ต.นาโคก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จึงประสานเจ้าหน้าที่สายตรวจหน่วยบริการประชาชนนาโคกไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบรถตู้โดยสารประจำทางสาย กทม.–ประจวบคีรีขันธ์ หมายเลขทะเบียน 15-4168 กทม.จอดอยู่ โดยคนขับรถตู้กับผู้โดยสารได้ช่วยกันจับตัวชายผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้ ทราบชื่อคือนายศิโรจน์ สุทธาลักษ์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59/1 หมู่ 3 ต.บ้านใหม่ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.อยุธยา โดยมีหญิงสาว อายุ 34 ปี ผู้เสียหายยืนชี้ตัวผู้ก่อเหตุด้วย ก่อนคุมตัวมาสอบปากคำที่โรงพัก

ด้านนายวินัย สุดถนอม อายุ 37 ปี คนขับรถตู้เล่าว่า ตนได้รับผู้โดยสารมาจากท่ารถสายใต้เต็มคัน มีจุดหมายปลายทางอยู่ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้มีหญิงสาวผู้เสียหาย ที่นั่งเบาะด้านหลังร้องกรี๊ดขึ้นมา และบอกว่าถูกจับหน้าอก ตนจึงรีบจอดรถแล้วก็ช่วยกันจับตัวคนก่อเหตุไว้ ซึ่งก็เป็นผู้โดยสารที่นั่งมาตรงเบาะด้านหลังคู่กับหญิงสาวผู้เสียหาย จากนั้นก็แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาควบคุมตัวไปดำเนินคดี

จากการสอบสวนนายศิโรจน์ ให้การโดยอ้างว่า ตนเพิ่งปลดจากทหารมาไม่นาน และกำลังเดินทางไปหาญาติที่ จ.เพชรบุรี ระหว่างทางเกิดอารมณ์ทางเพศขึ้นมา ก็เลยเอามือไปจับหน้าอกสาวคนนั่งข้าง ซึ่งตนต้องกราบขอโทษด้วยเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบแท้ๆ อีกทั้งยังประกอบกับฤทธิ์ของยาเสพติดที่เสพเข้าไปก่อนหน้านี้ 1 วัน จึงทำให้เกิดอารมณ์ทางเพศเมื่อนั่งใกล้ชิดกับผู้หญิง

ขณะที่หญิงสาวผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนขึ้นรถตู้โดยสารมาจาก กทม. เพื่อจะกลับบ้านที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระหว่างทางได้นั่งเบาะหลังคู่กับผู้ก่อเหตุ และขณะที่นั่งเพลินๆ ได้หันหน้าไปมองกระจกด้านข้าง ก็ถูกผู้ก่อเหตุเอามือเอื้อมมาจับที่บริเวณหน้าอก จากนั้นตนก็ได้สะบัดมือของชายคนดังกล่าวออก พร้อมกับร้องกรี๊ดและตะโกนบอกคนขับให้จอดเพื่อให้ช่วยกันจับคนก่อเหตุไว้

ทั้งนี้หลังจากที่ตำรวจได้สอบปากคำผู้ก่อเหตุแล้ว ทางหญิงสาวผู้เสียหายก็ไม่ได้ติดใจที่จะแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดแต่อย่างใด เพราะผู้ก่อเหตุได้ขอโทษแล้ว แต่ก็ขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการไปตามข้อกฎหมาย พร้อมกับขอให้นำตัวผู้ก่อเหตุไปตรวจหาสารเสพติดในร่างกายด้วย เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาต่อไป และจะได้ไม่ไปก่อเหตุในลักษณะเช่นนี้อีก เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า กระทำอนาจารผู้อื่นบนรถโดยสารประจำทาง และนำตัวไปตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย ก่อนจะควบคุมไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน