โพสต์มั่ว อสม.โดนแทงเพราะเตือนคนกักตัว
กักตัว วันที่ 6 เม.ย. ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประชุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมในกรณีศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อยกระดับการปฏิบัติการตามข้อสั่งการของกระทรวงมหาดไทย
โดยที่ประชุมได้หารือการจัดเตรียมความพร้อมสถานที่รองรับการกักกันตัวของจังหวัด การชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนและทุกภาคส่วนถึงความจำเป็นในการปฏิบัติการเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยให้ประชาชนอยู่ในที่พำนัก ไม่เคลื่อนย้าย เดินทาง การวางมาตรการควบคุมการกักตุนสินค้า และการวางแผนจัดระบบการขนส่งสินค้า เครื่องอุปโภคบริโภค สิ่งของจำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวัน
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
นายศิริพัฒ กล่าวว่า การเตรียมพื้นที่รองรับการกักกันตัวของผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง ได้กำหนดใช้ศูนย์พัฒนาการสาธารณสุขมูลฐานภาคใต้ รองรับได้ 30 คน เนื่องจากอยู่ใกล้หมอใกล้พยาบาลดูแลทั่วถึง หากมีจำนวนมากก็จะใช้สนามกีฬา อบจ.เป็นสถานที่กักกันตัวสำรอง สามารถรองรับได้ประมาณ 100 คน ซึ่งมั่นใจว่าสามารถรองรับผู้ป่วยได้อย่างเพียงพอ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการแชร์กันในโลกโซเชียลว่า เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ อสม.ที่ ต.ที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ถูกแทงได้รับบาดเจ็บ โดยระบุว่าคนแทงเป็นคนที่เดินทางมาจาก กทม.แล้วถูกผู้เสียหายได้ไปว่ากล่าวตักเตือนเพื่อให้กักตัว 14 วัน จนมีการทำร้ายกัน กระทั่งมีการแชร์กันในโลกโซเชียลอย่างกว้าง และมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด พ.ต.อ.สำราญ อุชุภาพ ผกก.สภ.กะปาง จ.นครศรีธรรมราช ได้เปิดเผยว่า ที่โพสต์กันในโลกโซเชียลนั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด โดยข้อเท็จจริงเหตุเกิดช่วงเที่ยงวันของเมื่อวาน (5 เม.ย.) ได้เกิดเหตุทะเลาะกันระหว่างพี่สาวกับน้องชายเรื่องมรดกที่ดิน ซึ่งผู้บาดเจ็บคือ นางสารภี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 60 ปี ถูกแทงด้วยมีดปลายแหลมเข้าท้องเป็นแผลยาว 3 ซม.
ส่วนมือมีดที่ก่อเหตุเป็นน้องชายของนางสารภี คือ นายสมยศ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 50 ปี ก่อนเกิดเหตุ นางสารภี พร้อม นายสมยศ และพี่ๆ น้องๆ หลายคนมานั่งคุยกันเรื่องที่ดิน ขณะกำลังนั่งคุย นางสารภี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ อสม.แต่งชุดเจ้าหน้าที่ อสม.ได้ทะเลาะกับ นายสมยศ ก่อนมีการทำร้ายกัน และนางสารภี ถูกแทงบาดเจ็บ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับสถานการณ์โควิด-19 แต่อย่างใด ตอนนี้จับกุมตัว นายสมยศ ไว้ดำเนินคดีแล้ว และเตรียมแจ้งความเอาผิดคนที่โพสต์ลงในโซเชียลที่ไม่รู้ข้อเท็จจริงด้วย