จากกรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจสอบพบว่ามีการตัดไม้ทำลายป่าในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนด้วยการปลอมแปลงเอกสารสิทธิ หรือการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติและเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า

นายประทีป กีรติเรขา อธิบดีกรมที่ดิน ชี้แจงว่า จากการตรวจสอบในเบื้องต้นปรากฏข้อเท็จจริงว่าพื้นที่บริเวณที่ตกเป็นข่าวมีการปลอมแปลงเอกสารสิทธิหรือออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบ ซึ่งกรณีนี้ได้มีการนำคดีขึ้นสู่การพิจารณาของศาลจังหวัดแม่ฮ่องสอนแล้ว มีรายละเอียดของการพิจารณาคดี ดังนี้

ศาลพิพากษาจำคุกอดีตเจ้าหน้าที่บริหารงานที่ดินอำเภอขุนยวม ที่ปลอมลายมือชื่อนายอำเภอขุนยวม (ในขณะนั้น) ออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3. และ น.ส.3 ก.) หลายแปลง และผู้กระทำผิดได้เสียชีวิตในขณะถูกจำคุก โดยลักษณะความผิดดังกล่าว ได้มีการพิจารณาคดี 2 ครั้ง ดังนี้

ครั้งที่ 1 ศาลจังหวัดแม่ฮ่องสอนมีคำพิพากษาในคดีหมายเลขแดงที่ 2411/2538 ลงวันที่ 29 ธันวาคม 2538 ความอาญา ระหว่างพนักงานอัยการจังหวัดแม่ฮ่องสอน โจทก์ อดีตเจ้าหน้าที่บริหารงานที่ดินอำเภอขุนยวม จำเลย เรื่องความผิดต่อเอกสาร สรุปได้ว่าจำเลยได้ปลอมหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส. 3) 21 แปลง และ (น.ส. 3 ก.) 19 แปลง รวม 40 แปลง

ครั้งที่ 2 ศาลจังหวัดแม่ฮ่องสอนมีคำพิพากษาในคดีหมายเลขแดงที่ อ.1658 / 2546 ลงวันที่ 23 ธันวาคม 2546 สรุปได้ว่า จำเลยได้ปลอม น.ส. 3 ก. จำนวน 28 แปลง

อธิบดีกรมที่ดินกล่าวต่อไปว่า กรณีดังกล่าวกรมที่ดินได้ตรวจสอบและดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องและจะมีการร่วมประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมป่าไม้ และจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในวันที่ 22 มิถุนายน 2560 ต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน