จากกรณีข้าราชการครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.กาฬสินธุ์ พาลูกสาววัย 19 ปี เข้าร้องทุกข์กับ ผวจ.กาฬสินธุ์, ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ และศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ ว่าลูกสาวถูกอดีตสามีใหม่ ซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ แอบถ่ายภาพและถ่ายคลิปขณะอาบน้ำ พร้อมกับลวนลามมานานหลายปี ขณะที่สพป.กาฬสินธุ์ เขต 3 ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และพนักงานสอบสวน สภ.กุฉินารายณ์ ได้ออกหมายเรียกผู้อำนวยการคนดังกล่าว ให้เข้าไปรับทราบข้อกล่าวหาอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

อ่านข่าว แม่สุดทนแจ้งจับผัวใหม่ เป็นถึง ผอ.โรงเรียน แอบถ่ายลูกสาวอาบน้ำ บอกเอาไว้ช่วยตัวเอง

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ร.ต.อ.วีระวัฒน์ หิรัญภิงคา รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ นำตัวผู้อำนวยการโรงเรียน อายุ 58 ปี ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาคดีแอบถ่ายภาพและคลิปของลูกเลี้ยง ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ หลังจากได้เข้ามอบตัวและรับทราบข้อกล่าวหาอนาจารเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี กับพนักงานสอบสวนเมื่อช่วงดึกวันเสาร์ที่ 17 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยท้ายคำร้องพนักงสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าจะมีการข่มขู่ผู้เสียหายและพยาน

ด้าน พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า ผู้อำนวยการโรงเรียนคนดังกล่าว ได้เข้ามอบตัวและรับทราบข้อกล่าวหาแล้วเมื่อช่วงดึกวันเสาร์ที่ 17 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำ ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาให้การภาคเสธ เบื้องต้นในชั้นสอบสวนพนักงานสอบสวนไม่อนุญาตให้ประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าจะมีการข่มขู่พยานและผู้เสียหาย ส่วนผู้ถูกกล่าวหาจะยื่นประกันตัวในชั้นศาลนั้นก็เป็นสิทธิ์ของผู้ถูกกล่าวหา และอยู่ที่ดุลพินิจของศาล อย่างไรก็ตามยืนยันว่าตำรวจจะทำงานยึดตามพยานหลักฐานและทำอย่างรอบครอบเพื่อให้เกิดความกระจ่าง และดูแลพี่น้องประชาชน

ด้านนางเอ ข้าราชการครู กล่าวว่า ขณะนี้ตนและลูกสาวรู้สึกมีกำลังใจขึ้นมามาก เนื่องจากคดีมีความคืบหน้าไปมาก หลังจากที่ผ่านมาหนทางมืดมน ส่งเรื่องร้องทุกข์ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3 และแจ้งความไว้ที่สภ.กุฉินารายณ์ ก็ไม่มีความคืบหน้า จึงไปไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร ซึ่งต้องตัดสินใจเข้าร้องทุกข์กับมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี ตามความต้องการของลูกสาว จนกระทั่งมีการประสานงาน และได้รับการช่วยเหลือจากนายสุวิทย์ คำดี ผวจ.กาฬสินธุ์ และ พล.ต.ต.มนตรี จรัลพงศ์ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ จึงอยากขอบคุณมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี, ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์, ผวจ.กาฬสินธุ์, ศูนย์ดำรงธรรม จ.กาฬสินธุ์ ตลอดจนสื่อมวลชน ที่ทำให้เรื่องมีความคืบหน้าถึงปัจจุบัน

นางเอ กล่าวต่อว่า สำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้น กระทั่งนำไปสู่การเข้าไปร้องทุกข์นั้นเป็นความต้องการของลูกสาวที่เก็บกด ถูกกระทำ และถูกรังแกมาหลายปีตั้งแต่เด็กๆ โดยลูกสาวคิดอยู่ในใจเสมอว่าทำอย่างไรจะมีหลักฐานเอาผิดให้ได้รับผลกรรม อีกทั้งร้องเรียนและแจ้งความไปแล้วทำไมไม่คืบหน้า ไม่ดำเนินการใดๆ ซึ่งผู้ที่เป็นแม่ก็ไม่สามารถทนเจ็บปวดที่เห็นลูกสาวถูกกระทำได้ จึงต้องปกป้องลูกสาวและปกป้องศักดิ์ศรีลูกผู้หญิง แม้จะมีใครมองว่าจะร้องเรียนทำไม เพราะจะทำให้ลูกสาวเสียหายก็ตาม ซึ่งยืนยันว่าตนและลูกสาวในทางคดีอาญาจะสู้ให้ถึงที่สุด เพราะเชื่อในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งขณะนี้จิตใจลูกสาวก็ดีขึ้นแล้ว ส่วนผลสอบของคณะกรรมการ สพป.กาฬสินธุ์ เขต 3 จะออกมาอย่างไรนั้น ยืนยันว่าหลักฐานที่ตนให้ไปมีครบ โดยเฉพาะข้อความในไลน์ที่ส่งมีในเชิงเกี้ยวพาราสี และคลิป และจะสามารถให้ความเป็นธรรมกับลูกสาวได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน