วันที่ 26 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามียายวัย 90 ปี อาศัยอยู่กับลูกชายอายุ 60 ปี ซึ่งป่วยสมองพิการ อยู่ในบ้านสภาพทรุดโทรม อาศับแค่เบี้ยคนชราแลัคนพิการเลี้ยงชีวิต ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 224 หมู่ 2 ต.คลองใหญ่ อ.คลองใหญ่ จ.ตราด

โดยบ้านหลังดังกล่าวเป็นชั้นเดียวสภาพทรุดโทรมเป็นอย่างมาก พบนางจำลอง หอยสังข์ แม่เฒ่าวัย 90 ปี ใช้ชีวิตอยู่อย่างรันทด และเลี้ยงลูกชายคือนายชาลี หอยสังข์ วัย 60 ปี ที่ป่วยพิการทางสมองไม่สามารถทำงานได้ ซึ่งการยังชีพปัจจุบันนี้ใช้เงินของเบี้ยยังชีพที่รัฐบาลจ่ายให้เดือนละ 800 บาท ของลูกชายรับเงินคนพิการเดือนละ 500 บาท เมื่อนางจำลองพบผู้สื่อข่าวได้กล่าวทักทายด้วยความยิ้มแย้ม และจากการพูดคุยพบว่าแม่เฒ่าผู้นี้สามารถพูดคุยและรับฟังกับผู้สื่อข่าวได้เป็นอย่างดี พร้อมเล่าเรื่องราวชีวิตอันแสนรันทดให้ฟังว่า ยอมรับชะตากรรมที่เกิดมาจน ซํ้าลูกชายยังมาป่วยทางสมองไม่สามารถทำงานได้กว่า 30 ปีแล้ว

นางจำลอง กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านั้นลูกชายได้ไปเป็นทหารรับใช้ชาติมาหลังจากปลดประจําการก็ป่วยมีอาการทางสมอง ที่ไม่เป็นปกติทําให้ชีวิตลําบากเรื่อยมา หลังจากที่ตนได้อายุมากขึ้นแล้วและไม่สามารถทํางานหาเลี้ยงชีพได้ โดยอาศัยบ้านของคนที่รู้จักกันให้เป็นที่อยู่อาศัยสภาพบ้านปัจจุบันก็หลังคารั่วต้องใช้กระดาษกาวตัดปิดบนหลังคากันเวลาฝนตกจะรั่วตลอดเวลา และต้องกังวลทุกครั้งที่ฝนตกลงมา โดยเฉพาะเมื่อมีลมแรงกลัวบ้านจะพังล้มทับ ซึ่งได้แต่ภาวนาขออย่าให้มีลมแรงเลย ตนไม่มีปัญญาที่จะมีเงินมาซ่อมแซมได้ การหุงหาอาหารก็ใช้เตาถ่าน

นางจําลอง เผยชีวิตรันทดด้วยนํ้าตาคลอ พร้อมพูดตัดพ้อว่า ตนยอมรับชะตากรรมที่เกิดมาจน และทุกวันนี้ก็ห่วงเพียงแต่ลูกชายที่ป่วยทางสมองไม่ปกติเหมือนคนอื่นทั่วไป หากวันใดเจ้าของบ้านมาขอบ้านคืนก็ยังไม่รู้ชะตากรรมว่าจะไปอยู่กันที่ไหน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน