จากกรณี นายธนวรรธน์ คำแหงพล อายุ 37 ปี หรือฉายา พีทแผงแตก และ พีทลวงโลก พ่อค้าขายลอตเตอรี่ ได้โพสต์ว่ามีคนถูกรางวัลที่ 1 ได้เงิน 90 ล้านบาท ที่ซื้อจากแผงตนเอง จนแผงของ นายธนวรรธน์ ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า แต่ภายหลัง นายธนวรรณน์ ก็รับสารภาพว่า ไม่มีคนถูกรางวัลดังกล่าว แต่ตนเป็นคนตัดต่อลอตเตอรี่ จนถูกจับกุมดำเนินคดี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว ด่วน ‘พีท’ พ่อค้าหวยสารภาพแล้ว ตัดต่อหวย 90 ล้าน ไม่มีคนถูกรางวัลจริง

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 28 พ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายธนวรรธน์ ว่า ในวันนี้ เวลาประมาณ 09.00 น. ตนได้เดินทางไปขึ้นศาลจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อฟังคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ หลังจากที่ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 2 ก.ค.62 ศาลชั้นต้นเคยตัดสินพิพากษาว่า ตนมีความผิดใน 3 ข้อหา ประกอบด้วย 1.ขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา จำคุก 1 เดือน ปรับ 2,000 บาท แต่ให้การรับสารภาพ ศาลลดโทษจำคุกให้กึ่งหนึ่งเหลือ จำคุก 15 วัน ปรับ 2,000 บาท 2.ข้อหาปลอมและใช้เอกสารปลอม ศาลพิพากษาจำคุกข้อหาใช้เอกสารปลอม จำคุก 1 ปี และ 3.ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ศาลจำคุก 1 ปี รวมเป็น 2 ปี 15 วัน ส่วนข้อหาฉ้อโกงประชาชนนั้นศาลยกฟ้อง

โดยหลังจากฟังคำตัดสินของศาลชั้นต้นแล้ว ก็ได้ขอประกันตัวออกมาสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ต่อ ซึ่งในที่สุดวันนี้ ศาลอุทธรณ์มีคำตัดสินออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยยืนตามศาลชั้นต้นคือ มีโทษทั้งจำและปรับ สำหรับโทษปรับนั้น ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วได้สั่งปรับเป็นเงิน 62,000 บาท ส่วนโทษจำคุก 2 ปี 15 วัน ให้รอลงอาญาไว้ก่อน

เนื่องจากศาลเห็นว่าตนรับสารภาพและยังได้ออกมาประกาศต่อสังคมถึงการกระทำที่ไม่เหมาะสมของตน โดยไม่ได้มีใครบังคับให้เปิดเผยความจริงต่อสาธารณชน ส่งผลทำให้ประชาชนไม่เกิดความแตกตื่น จึงเห็นสมควรว่าโทษจำให้รอลงอาญาไว้ก่อน แต่ต้องไปแสดงตนต่อสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดสมุทรสาคร และให้บำเพ็ญประโยชน์ 8 ครั้งภายในเวลา 1 ปี

นายธนวรรน์ กล่าวอีกว่า หลังจากฟังคำตัดสินของศาลอุทธรณ์แล้ว ตนและครอบครัวรู้สึกโล่งใจและดีใจเป็นอย่างมาก ซึ่งในส่วนของโทษปรับนั้นก็ได้ดำเนินการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คงเหลือที่จะต้องไปรายงานตัวกับสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดและบำเพ็ญประโยชน์ 8 ครั้งในเวลา 1 ปี ตามคำสั่งศาล และหลังจากนี้ตนก็จะเดินหน้าขายลอตเตอรี่ต่อไป โดยจะไม่หวนกลับไปสร้างเรื่องแบบที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วอย่างแน่นอน

ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนราคาแพงของตนอย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องของการโพสต์สิ่งต่างๆ ลงโซเชียลที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ จะโพสต์อะไรลงไปก็ต้องคิดให้ดีก่อนว่าจะมีผลอะไรที่เกิดขึ้นจากการกระทำของเราตามมาบ้าง นอกจากนี้ยังจะไปทำบุญที่สำนักสงฆ์แห่งหนึ่งในอำเภอสวนผึ้ง จ.ราชบุรีด้วย เพราะก่อนหน้าที่ตนจะขึ้นศาล 1 วัน ได้ไปไว้พระพิฆเนศวร์ ที่สำนักสงฆ์แห่งนี้ โดยได้เจอกับหลวงตาท่านหนึ่ง ซึ่งท่านก็ได้ให้พรมาว่า ไม่ว่าตนจะเจออะไรในวันพรุ่งนี้ (ตรงกับวันขึ้นศาล) ก็ขอให้ผ่านพ้นไปด้วยดี ตนรู้สึกตกใจและขนลุกว่า หลวงตาท่านนั้นรู้ได้อย่างไร ว่าตนจะต้องเจอกับอะไร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน