วันที่ 5 มิ.ย. ร.ต.อ.ชัยวัฒน์ ปั้นทอง รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งเหตุยิงกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่ร้าน 19 วุฒิชัยกิจค้าไม้ เลขที่ 101 /11 หมู่ 3 ต.ท่าโรงช้าง อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี มีผู้ได้รับาดเจ็บ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.วิรุฬห์ สุวรรณพงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี, พ.ต.อ.ศิริชัย ทรงวศิน ผกก.สภ.พุนพิน, พ.ต.ท.โยธินทร์ สิทธิโยธี รองผกก.ป., พ.ต.ท.เสวี เวชพิทักษ์ รอง.ผกก.(สอบสวน), ร.ต.อ.ธีรวิทย์ อินทรสุข รอง สวป./หัวหน้าป้อมท่าโรงช้าง เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 และเจ้าหน้าที่กู้ภัยท่าโรงช้าง

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

ที่เกิดเหตุเป็นร้านจำหน่ายไม้แปรรูป จำพวกวงกบ บานเลื่อน ประตู หน้าต่าง ขนาดใหญ่ 2 ชั้นกัน 4 คูหา ชั้นบนเป็นบ้านทรงไทย ชั้นล่างเปิดขายไม้แปรรูป บริเวณด้านหน้าร้านพบปลอกกระสุนขนาด .38 ซุปเปอร์ จำนวน 1 ปลอก และขนาด .380 ซุปเปอร์ จำนวน 1 ปลอก ส่วนบริเวณด้านหลังบ้านใกล้โต๊ะหินอ่อนพบกระสุนขนาด .380 ซุปเปอร์ ตกอยู่ 1 นัด และปลอกกระสุนขนาด .38 ซุปเปอร์ ตกอยู่ 1 ปลอก เจ้าหน้าที่เก็บไว้เป็นหลักฐาน

ส่วนผู้บาดเจ็บทราบว่ามี 1 ราย พลเมืองดีนำส่ง ร.พ.ท่าโรงช้าง ไปก่อนแล้ว ทราบชื่อคือ นายวัชราวุฒิ หรือเสี่ยแอ๊ด คงแก้ว อายุ 37 ปี เจ้าของร้าน ถูกยิงได้รับบาดเจ็บบริเวณสะโพกซ้าย 1 นัด แพทย์รักษาจนอาการปลอดภัย

จากสอบสวน นายวัชราวุฒิ ผู้บาดเจ็บ ทราบว่า ตนเป็นเจ้าของร้านที่เกิดเหตุ แต่งงานอยู่กินกับ นางสุดารัตน์ หรือจิ๋ม กี่บุตร อายุ 40 ปี อดีตภรรยา กว่า 10 ปี จนมีลูกสาวอายุ 13 ปี และลูกชายอายุ 9 ขวบ จนกระทั่งภายหลังเมื่อประมาณ 1 ปีที่ผ่าน ตนได้จดทะเบียนหย่ากับ นางสุดารัตน์ แต่กิจการร้านยังคงรับผิดชอบดูแลด้วยกัน โดยตนตั้งใจจะยกเป็นสมบัติให้ลูกทั้ง 2 คน ส่วนตัวได้กลับไปเปิดกิจการใหม่ลักษณะเดียวกันที่ จ.ชุมพร

ก่อนเกิดเหตุตนเดินทางมาจาก จ.ชุมพร เพื่อนำไม้แปรรูปจากร้านที่ชุมพรมาเก็บไว้จำหน่ายที่ร้านดังกล่าว และได้พบกับ นางสุดารัตน์ อยู่ภายในร้านกับ นายนัฐพงษ์ นาคสม หรือแบงค์ ซึ่งทราบว่าเป็นผู้ชายที่ นางสุดารัตน์ ได้คบหาอยู่ จึงเกิดบันดาลโทสะ และเกิดปากเสียงโต้เถียงกันขึ้น ก่อนที่ นายนัฐพงษ์ จะชักอาวุธออกมาขู่ ตนจึงชักอาวุธปืน ขนาด.380 ซุปเปอร์ ออกมาเช่นกัน โดย นายนัฐพงษ์ เป็นฝ่ายไล่ยิงใส่ตนก่อน จากนั้นก็เกิดการดวลปืนกัน จนตนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุ นายนัฐพงษ์ ได้ขับรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ทะเบียน 4433 (ไม่ทราบหมวดอักษร) สุราษฎร์ธานี พา นางสุดารัตน์ และลูกทั้ง 2 คนของตนไปด้วย

ด้าน พ.ต.อ.วิรุฬห์ กล่าวว่า สาเหตุเบื้องต้นเกี่ยวกับเรื่องชู้สาว โดยทราบว่า นายวัชราวุฒิ หลังจากหย่ากับ นางสุดารัตน์ ได้ไปเปิดธุรกิจกิจการใหม่ที่ จ.ชุมพร และมีครอบครัวใหม่ โดยยกร้านดังกล่าวให้ นางสุดารัตน์ ดูแล แต่ก็ยังไปๆ มาๆ ดูแลลูกทั้ง 2 คน และธุรกิจร่วมด้วย ขณะที่ นางสุดารัตน์ ก็ได้คบหากับ นายนัฐพงษ์ เจ้าของธุรกิจสวนทุเรียน อ.พนม จ.กระบี่ เพิ่งมีการสู่ขอ นางสุดารัตน์ เมื่อไม่นานมานี้

ส่วนสาหตุน่าจะเกิดจากการพูดจาถากถาง เสียดสีกันจนเกิดบันดาลโทสะทั้ง 2 ฝ่าย จนเกิดการยิงต่อสู้กัน ทั้งนี้หลังจากเกิดเหตุทราบว่า นางสุดารัตน์ ได้นำลูกทั้ง 2 คนส่งให้ญาติที่บริวณพื้นที่ อ.เคียนซา ก่อนจะหลบหนีไปกับ นายนัฐพงษ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ออกติดตาม และวิทยุสกัดตามเส้นทางที่คาดว่าจะใช้หลบหนี ซึ่งจะได้นำตัวมาสอบสวนข้อเท็จจริงและดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน