เมื่อวันที่ 18 ก.ค. ที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนภายในมณฑลทหารบกที่ 23 ค่ายศรีพัชรินทร์ จ.ขอนแก่น น.ส.นิตตะยา ขันดี อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10 หมู่ 8 บ้านดอนธาตุ ต.หนองตูม อ.เมือง จ.ขอนแก่น พี่สาวของ น.ส.พิราพร จันดี อายุ 22 ปี ซึ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์เสียหลักล้ม แล้วถูกรถกระบะกับรถเก๋งที่ขับตามหลังมาชนซ้ำแล้วลากศพไปกับถนนเหตุเกิดกลางดึกวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา
นำเอกสารหลักฐานซึ่งประกอบด้วยภาพถ่ายศพน้องสาวในสถานที่เกิดเหตุ เอกสารการแจ้งความลงประจำวันที่สภ.เมืองไหม หนังสือรับรองการเสียชีวิต พร้อมภาพหน้าตรงผู้เสียชีวิต เข้ายื่นร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ทหาร เพื่อให้มีการตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการติดตามผู้กระทำความผิด จากเหตการณ์ที่เกิดขึ้นมาดำเนินคดีตามกฎหมาย รวมทั้งให้คนขับรถกระบะมาขอขมาอัฐิน้องสาวเพื่อให้ไปสู่สุขคติ
น.ส.นิตตะยา เปิดเผยว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมาน้องสาวขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า ทะเบียน 1 กฌ 3241 ขอนแก่น กลับบ้านได้เสียหลักล้มบนถนนสายขอนแก่น-เชียงยืน ขณะเกิดเหตุมีพลเมืองดีซึ่งเป็นคนขับรถแท็กซี่และชาวบ้านที่มาประสบเหตุจอดรถช่วยเหลือ แต่ขณะกำลังช่วยเหลือกันอยู่นั้นมีรถยนต์กระบะไม่ทราบสี ยี่ห้อ ทะเบียน ขับมาจากในเขตตัวเมืองขอนแก่นด้วยความเร็วสูงพุ่งเข้าใส่ แต่พลเมืองดีกระโดดหลบทัน ส่วนน้องสาวถูกรถกระบะพุ่งชนกระเด็นไปกว่า 100 เมตรแล้วหลบหนีไป จากนั้นยังมีรถเก๋งไม่ทราบสี ยี่ห้อ ทะเบียน ขับมาเหยียบน้องสาวซ้ำแล้วลากไปกว่า 80 เมตร จนร่างเละแหลกเหลว
“พลเมืองดีเห็นเหตุการณ์ตลอดแต่ช่วยเหลือไม่ทัน กระทั่งมีรถตู้อีกคันผ่านมาประสบเหตุ จึงจอดรถขวางทางเอาไว้เพื่อกันไม่ให้รถคันอื่นมาเหยียบร่างน้องสาวซ้ำอีก ก่อนที่จะช่วยกันแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจที่เกิดเหตุ หลังเกิดเหตุ ญาติพี่น้อง เพื่อนสนิทของผู้ตายและคนในครอบครัวไม่มีใครมีความสุข เพราะวิญญาณน้องติ๊กยังคงมาร้องไห้โหยหวนด้วยความเจ็บปวด ครอบครัวทำพิธีเรียกวิญญาณแล้วก็ยังไม่สงบ
เวลานี้เหตุการณ์ได้ผ่านไปนานกว่า 1 สัปดาห์แล้วก็ยังคงไม่มีความคืบหน้า จึงมาร้องเรียนที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนของคสช. ให้ช่วยประสานกับตำรวจสภ.เมืองไหม ติดตามคนขับรถกระบะมารับผิดชอบในสิ่งที่ทำลงไปและอยากให้ขอขมาอัฐิน้องสาว เพื่อให้ไปสู่สุขคติ” พี่สาวน้องติ๊ก ระบุ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ทหาร รับเรื่องร้องเรียนไว้พร้อมเอกสารหลักฐาน ก่อนประสานไปยังตำรวจ สภ.เมืองไหม และเจ้าของคดีตามขั้นตอนต่อไป
