จากกรณีนายจิรวัฒน์ จิ๋วเจริญ อายุ 45 ปี ชาว อ.แม่สอด จ.ตาก ถูกคนร้ายฆ่าเปลือย ปาดคอและแทงตามร่างกายหลายแผล เหตุเกิดภายในบ้านเลขที่ 9/98 ถนนอินทรคีรี เขตเทศบาลนครแม่สอด อ.แม่สอด จ.ตาก หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว กระทั่งสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ ซึ่งมีพยานยืนยันว่าเป็นคนขี่รถจยย.ของผู้ตายออกจากบ้านหลังเกิดเหตุ ตามที่เสอนข่าวไปแล้วนั้น
อ่านข่าว เพื่อนไปหาถึงช็อก! เสี่ยแม่สอดถูกฆ่าเปลือย มีดปาดคอ แทงร่างพรุน กวาดทรัพย์สินเกลี้ยง
อ่านข่าว รวบแล้วหนุ่มวัย 16 ฆ่าเปลือยปาดคอเสี่ยแม่สอด ดับสยองคาบ้าน ตร.ล่า 5 ชั่วโมง
ความคืบหน้าวันที่ 21 ก.ค. พ.ต.อ.ภาสกร กลั่นหวาน ผกก.แม่สอด พ.ต.ท.เกรียงเดช ชัยบรรณ รอง ผกก.สส.สภ.แม่สอด เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบกว่า 20 นาย ควบคุมตัวนายซอนิน อายุ 19 ปี และน.ส.ดา (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี สองคนร้ายสัญชาติเมียนมา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพภายในในบ้านเกิดเหตุ โดยมีกำลังตำรวจคุ้มกันอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันกลุ่มชาวบ้านและกลุ่มญาติผู้เสียชีวิตและอยู่ในอาการโกรธแค้นสองผู้ต้องหา เข้ารุมประชาทัณฑ์
เมื่อตำรวจนำตัวทั้ง 2 คน ลงจากรถ กลุ่มไทยมุงต่างตะโกนสาปแช่งด้วยถ้อยคำต่างๆนานา จนตำรวจต้องรีบกันกลุ่มชาวบ้านออกห่างจากแนวรั้วบ้านเพื่อป้องกันความวุ่นวาย แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์ใดๆ บานปลาย ก่อนควบคุมตัวเข้าไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยมีญาติผู้หญิงของผู้เสียชีวิตได้รับอนุญาตให้ร่วมสังเกตการณ์ทำแผนในครั้งนี้
เบื้องต้นนายซอนิน ให้การรับสารภาพโดยอ้างว่า รู้จักกับผู้เสียชีวิตมานานกว่าหนึ่งปีเศษ โดยผู้เสียชีวิตได้ให้การอุปการะตนและภรรยามาโดยตลอด จนผู้ตายไว้เนื้อเชื่อใจให้เข้าออกบ้านพักไดยโดยสะดวก จนคืนวันเกิดเหตุตนร่วมกับภรรยาวางแผนเพื่อชิงทรัพย์ โดยทำทีเข้าไปหาผู้ตายที่บ้านพักในช่วงเวลากลางคืน ก่อนสบโอกาสที่ผู้ตายเผลอเดินเข้าห้องนอน ใช้มีดปลายแหลมที่เตรียมมากระหน่ำแทงไปที่ลำตัวและลำคอผู้ตายถึง 6 แผลจนเลือดเต็มพื้นห้องดิ้นทุรนทุราย จากนั้นก็เข้าไปปาดคอเหยื่อซ้ำอย่างใจเย็น เพื่อให้แน่ใจว่าเสียชีวิตแล้ว หลังจากนั้นตนได้ส่งสัญญาณให้ภรรยาที่เฝ้าดูต้นทาง หลบหนีพร้อมเอารถจักรยานยนต์ของผู้ตายขี่หลบหนีไป แล้วนำไปขายที่แนวชายแดนไทย- เมียนมา ก่อนย้อนเข้ามากบดานหลบซ่อนตัวที่บ้านพักใกล้กับตลาดแม่สอด กระทั่งมาจับกุมตัวไว้ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังเสร็จสิ้นการทำแผนก็ได้เกิดความวุ่นวายขึ้น ระหว่างตำรวจกำลังจะควบคุมตัว 2 ผู้ต้องหาออกจากบ้าน ชาวบ้านและกลุ่มเพื่อนและญาติๆ ของผู้ตาย ที่อยู่ในอารมณ์ที่โกรธแค้น ต่างวิ่งเข้าไปจะรุมประชาทัณฑ์ จนเกิดการชุลมุน เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรีบเข้าห้ามปรามและนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ขึ้นรถยนต์ขับฝ่าวงล้อมฝูงชนออกจากจุดเกิดเหตุ มุ่งหน้ากลับ สภ.แม่สอดโดยทันที เพื่อส่งตัวดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตาย และร่วมกันชิงทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืนต่อไป
