วันที่ 22 ก.ค. ร.ต.อ.พิพัฒน์พงศ์ เพิ่มพูน รองสารวัตร (สอบสวน) สน.ดอนเมือง ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ทางหลวงบางประอินประสานสกัดจับรถบรรทุกทรายแบบพ่วงหนีด่านตรวจ และมีการดัมพ์ทรายทิ้งขวางทาง นอกจากนี้กระบะดัมพ์ยังไปชนสะพายลอยคนข้าม และมีรถยนต์ชนกองทรายได้รับความเสียหาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เหตุเกิดบนถนนพหลโยธินขาเข้า หน้าทางเข้า รพ.บีแคร์ กม.ที่ 26-496 แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิปอเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุพบทรายกองใหญ่ขวางถนนในเลนขวาสุด และพบรถกระบะนิสสัน สีดำ หมายเลขทะเบียน ฒญ 8007 กทม. ขับชนกองทรายดังกล่าว สภาพรถด้านหน้ารถพังได้รับความเสียหาย คนขับรถเป็นชาย ไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 50 ปี ได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลภูมิพล ใกล้กันที่บริเวณเกาะกลางถนนมีรถกระบะอีซูซุ สีเขียว หมายเลขทะเบียน ลฮ 817 กทม. บรรทุกผลไม้เต็มคัน เสียหลักชนกับเกาะกลางถนนและถูกเสาไฟฟ้าหักโค่น ได้รับความเสียหาย มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นคนขับ ทราบชื่อคือ นายมานพ หทัยเดชะดุษฎี อายุ 59 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่ง รพ.ฃบีแคร์

ห่างไปประมาณ 100 เมตร พบรถพ่วงบรรทุกทราย หมายเลขทะเบียนตัวแม่ 86-2526 สระบุรี ส่วนตัวลูกไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เป็นรถคันที่ก่อเหตุ สภาพกระบะลูกพ่วงดัมพ์ยกขึ้น และที่ตัวแม่บรรทุกทรายเต็มกระบะ จอดอยู่ริมทางหน้าป้ายรถเมล์ซอย 39 โดยไม่พบคนขับรถ เบื้องต้นทราบว่าหลบหนีไปหลังจากก่อเหตุ นอกจากนี้ยังพบว่าสะพานลอยข้ามถนน หน้าปากซอย 39 ถูกดัมพ์รถพ่วงกระแทกสะพานลอย จนทำให้สะพานลอยได้รับความเสียหาย ปูนพื้นสะพานแตกเป็นรู และพบว่าตัวโครงสร้างสะพานช่วงตอหม้อสะพานมีร่องรอยเคลื่อนตัว ซึ่งได้ประสานเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบเพื่อป้องกันอันตรายกับผู้ใช้สะพานลอย

จาการสอบถาม นายอภิชาต ธรศรี อายุ 46 ปี เจ้าพนักงานทางหลวงบางปะอิน ให้การว่า ตนพร้อมทีมงานกำลังตรวจเรื่องการชั่งน้ำหนักอยู่ที่ด่านบางปะอิน ก็พบว่ารถบรรทุกคันนี้ไม่เข้าด่านตรวจและขับหนีด้วยความเร็ว จึงได้ประสานทางวิทยุกับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เขต จ.ปทุมธานี และเขตดอนเมือง สกัดจับรถคันดังกล่าว ซึ่งขณะนั้นตนได้ขับรถไล่ติดตาม โดยรถพ่วงคันดังกล่าวขับรถด้วยความเร็ว และส่ายไปมา กระทั่งมาถึงที่เกิดเหตุ คนขับได้ดัมพ์ทรายทิ้งขวางถนนเพื่อปิดทางในการติดตามของเจ้าหน้าที่ แต่จังหวะนั้นได้มีรถของประชาชน ซึ่งใช้ถนนเส้นทางดังกล่าวอยู่ เสียหลักขับพุ่งชนกองทราย และอีกคันได้หักหลบชนกับเกาะกลางถนน ส่วนตัวรถบรรทุก พบว่าตัวดัมพ์ที่ยกขึ้นไปกระแทกกับสะพานลอยได้รับความเสียหาย ส่วนคนขับรถได้วิ่งหลบหนีไป โดยทิ้งรถพ่วงไว้ที่หน้าป้ายรถเมล์ ตนจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ขอความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บ

เบื้องต้นได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนเพื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดช่วงบริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบหาคนขับรถพ่วงคันดังกล่าว และจะได้ตรวจสอบบริษัทฯ ของรถพ่วงคันดังกล่าว ว่าใครเป็นผู้ขับรถ เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป ส่วนสะพานลอยซึ่งถูกดัมพ์กระแทก จะได้ประสานเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบเนื่องจากมีร่องรอยเคลื่อนตัวของสะพานลอย จึงเกรงว่าจะเกิดอันตรายกับผู้ใช้สะพานลอย และผู้ใช้รถใช้ถนนในเส้นทางดังกล่าว

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน