วันที่ 28 ก.ค. ร.ต.ท.ณัฐภัทร ศรีทา รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองตราด ได้รับแจ้งจากนายอุทิศ ปูคณะ อายุ 41 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 52 หมู่ 4 ต.หนองเสม็ด อ.เมือง จ.ตราด ว่ามีคนร้ายเข้ามาขโมยทรัพย์สินภายในบ้าน หลังรับแจ้งจึงประสานตู้ยามหนองเสม็ดเดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว มีสุนัขพันธุ์พิบูลถูกล่ามโซ่ไว้หน้าบ้าน และสุนัขพันธุ์ไทยอีก 1 ตัวที่อยู่หลังบ้าน โดยนายอุทิศ และนางสายใจ ปานดี สองสามีภรรยา ได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจดูจุดที่คนร้ายเข้ามาในบ้าน โดยพบร่องรอยเท้าคนร้ายปีนข้ามช่องว่างระหว่างคานบ้านกับหลังคาบ้าน จากนั้นร้ายได้รื้อเอากระเป๋าเดินทางที่ภายในเก็บพระเครื่องชื่อดังทั่วประเทศ กว่า 300 องค์ เหรียญกษาปณ์ที่ระลึกในรุ่นต่างๆ กว่า 100 เหรียญ ธนบัตรที่ระลึก อีกกว่า 100 ฉบับ กล้องถ่ายรูปราคา 15,000 บาท รวมไปถึงสะดือและเส้นผมลูกชายที่เก็บไว้ ถูกคนร้ายเปิดกระเป๋าขโมยทั้งหมด ก่อนที่คนร้ายจะปิดกระเป๋าแล้วนำไปวางไว้ที่เดิมแล้วหลบหนีไป

นายอุทิศ กล่าวว่า รู้สึกเสียใจและเจ็บใจ พร้อมกับสาปแช่งคนร้ายขอให้ไม่ตายดี ที่ขโมยทรัพย์สินไป แม้ว่าราคาอาจจะไม่สูงมากกว่า แต่ทั้งพระเครื่อง เหรียญกษาปณ์ ธนบัตรที่ระลึก เป็นของสะสม มาตั้งแต่รุ่นพ่อ และไม่เคยปล่อยให้ใครเช่า แม้ว่าจะมีคนมาขอเช่าอยู่บ่อยๆ แต่เคยนำกระเป๋าออกมาเปิดให้คนรู้จักและเพื่อนสนิทดูไม่กี่คน ดูพระเครื่อง โดยกระเป๋าตนเองจะใส่กุญแจล็อกรหัสไว้ด้วย ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ตนเชื่อว่าน่าจะเป็นคนที่อยู่ใกล้เคียงกับบ้านตนและรู้ความเคลื่อนไหวของครอบครัวเป็นอย่างดี จึงได้ฉวยโอกาสที่ไม่มีใครอยู่บ้านเข้ามาขโมยทรัพย์สิน ประกอบกับสุนัขที่ตนเลี้ยงไว้น่าจะเห่าส่งเสียงดัง เพราะอาจจะคุ้นกับสุนัขก็เป็นได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่ถึงเดือนก็มีคนร้ายงัดบ้านมาแล้ว 1 ครั้ง แต่ครั้งนั้นไม่มีอะไรหายไป

ร.ต.ท.ณัฐภัทร ได้ตั้งข้อสงสัยว่า คนร้ายอาจจะเป็นคนที่รู้จักผู้เสียหายเป็นอย่างดี รวมไปถึงการจำรหัสของผู้เสียหายได้ด้วย แม้ว่าผู้เสียหายนั้นจะเปลี่ยนรหัสอยู่บ่อยๆ จึงกล้าลงมือในช่วงเวลาที่ผู้เสียหายไม่อยู่บ้าน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งสืบสวนหาคนหายมาดำเนินคดีให้ได้ต่อไป

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน