วันที่ 18 ส.ค. เจ้าหน้าที่ตระเวนระงับเหตุ ส่วนงานรักษาความปลอดภัย ท่าอากาศยานภูเก็ตนำโดย นายวุฒิไกร มาศสุวรรณ ผอก.สปภ.ฝรภ.ทภก. ร่วมกับ พ.ต.ท.ผดุงพงศ์ ดุกสุขแก้ว รอง ผกก.สภ.สาคู, พ.ต.ท.สลาน สันติศาสนกุล สว.อก.สภ.สาคู และ ร.ต.วิทยา คงสมบูรณ์ รอง สว.สทท.2 กก.5 บก.ทท.พร้อมกำลังร่วมกันจับกุม นายอรรถชัย แก้วดวง อายุ 25 ปี ชาว อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งพนักงานลำเลียงสัมภาระของบริษัทบริการภาคพื้นแห่งหนึ่ง ในข้อหาลักทรัพย์ภายในเขตท่าอากาศยานภูเก็ต

สืบเนื่องจาก นางมัลวิกา มุเขจรี อายุ 39 ปี สัญชาติอินเดีย ได้เดินทางมาท่องเที่ยวใน จ.ภูเก็ต และได้เดินทางกลับภูมิลำเนาโดยเดินทางผ่านทางท่าอากาศยานภูเก็ต ไปยังท่าอากาศยานสหรัฐอาหรับเอมิเรต ด้วยสายการบิน เอทีฮัต แอร์เวย์ เมื่อเวลา 02.25 น. ซึ่งหลังจากที่ผู้โดยสารได้ตรวจสอบทรัพย์สิน ณ สนามบินปลายทางพบว่า โทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง รุ่นกาแลกซี่โน๊ต 5 สีทองได้ถูกโจรกรรมไปจากกระเป๋า จึงได้ร้องเรียนมายังท่าอากาศยาน โดยผ่านทางช่องทางเฟซบุ๊กของ ทอท. โดยผู้เสียหายได้ส่งภาพหลักฐานภาพถ่ายชายต้องสงสัยมาให้ด้วย ทางท่าอากาศยานภูเก็ตจึงตรวจสอบภาพ พบว่าเป็น นายอรรถชัย ที่ได้ใช้โทรศัพท์ที่ขโมยไปถ่ายภาพตัวเองเล่น ซึ่งโทรศัพท์เครื่องดังกล่าวได้มีการตั้งค่าป้องกันการสูญหายไว้ ทำให้ภาพนั้นส่งมายังอีเมล์ส่วนตัวของนางมัลวิกา เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบภาพและยืนยันตัวตนได้ชัดเจนว่าเป็นพนักงานลำเลียงสัมภาระจึงประสานไปยัง สภ.สาคู และตำรวจท่องเที่ยว เพื่อเข้าจับกุมดังกล่าว

จากการสอบสวนพบว่าผู้ต้องหาได้ก่อเหตุลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง นอกจากนี้ยังพบของกลางอีกหลายรายการ จึงได้อายัดไว้และดำเนินคดีผู้ก่อเหตุฐานลักทรัพย์ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตระเวรระงับเหตุ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สาคู จึงควบคุมตัวไปดำเนินคดีที่ สภ.สาคู

ด้านนายเพ็ชร ชั้นเจริญ ผภก. ได้เปิดเผยว่าทางท่าอากาศยานภูเก็ต ได้ดำเนินการเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตราการปฏิบัตงานในพื้นที่เขตลานจอดอากาศยาน และการเข้า-ออก พื้นที่เขตลานจอดอากาศยาน เพื่อป้องกันการก่อเหตุในลักษณะดังกล่าว ซึ่งได้มีการประชุมหารือร่วมกับคณะอนุกรรมการรักษาความปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง และตั้งคณะทำงาน เพื่อกำหนดแนวทางการปฏิบัติและการป้องกันการก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง และ ทภก. ขอแสดงความสียใจสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยว และจะดำเนินการควบคุมเพื่อไม่ให้เกิดการก่อเหตุดังกล่าวขึ้นอีก

สำหรับการจับกุมดังกล่าว สามารถจับกุมคนร้ายได้ง่ายดายเนื่องจากเจ้าของโทรศัพท์รายนี้ได้มีการติดตั้งแอพพลิเคชั่นถ่ายภาพหน้าคนร้ายบนมือถือไว้ ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นที่ชือว่า “Lookout Mobile Security” ซึ่งมีฟีเจอร์ “Lock Cam” ที่มาพร้อมกับ “Lookout” ซึ่งจะถ่ายรูปหน้าหัวขโมยพร้อมตำแหน่งของสถานที่ที่พยายามจะปลดล๊อกมือถือ แล้วส่งภาพดังกล่าวให้กับเจ้าของทางอีเมล์ที่ได้ลงทะเบียนไว้

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน