เมื่อวันที่ 22 ส.ค. ที่ ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดกระบี่นายสุรชัย เชาวลิต อัยการจังหวัด คุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดกระบี่เป็นประธานในการประชุมหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วยยุติธรรมจังหวัดกระบี่ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกระบี่ ที่ดินอำเภออ่าวลึก สำนักงานบังคับคดีจังหวัดกระบี่ และผู้แทนจากธนาคารกรุงเทพ เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหากรณีที่ชาวบ้าน จำนวน 8 รายถูกนายซูริก์ฟัต หรือบังฟัต บ้านนบวงศ์สกุล ผู้ต้องหาฆ่าล้างครัวนายวรยุทธ สังหลัง หรือผู้ใหญ่บัต อดีตผู้ใหญ่บ้านม.1 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี เสียชีวิตพร้อมคนในครอบครัว รวม 8 ศพ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้นำเอกสารสิทธิ์ที่ดินเหยื่อทั้ง 8 รายรวม 12 แปลงไปจำนองไว้กับธนาคาร แต่ขาดผ่อนชำระ ทำให้ทางธนาคารได้ฟ้องร้องดำเนินคดี และเตรียมฟ้องบังคับคดี โดย 1 ใน 8 ราย มีนายจรีย์ บุตรเติบ พ่อตาของนายวรยุทธ รวมอยู่ด้วย

ที่ประชุมได้มีการนำเสนอปัญหาที่เกิดขึ้นให้ที่รับชุมได้รับทราบ โดยแนวทางแก้ปัญหาปัญหาเบื้องต้น คือช่วยในการดำเนินการทางทางกฎหมาย และการช่วยเหลือเยียวยาจากหน่วยงานต่างๆ ซึ่งเหยื่อทั้ง 8 ราย ได้ทำนิติกรรมกับนายฬูริก์ฟัต ในลักษณะการขายฝาก และทุกรายได้เซ็นชื่อโอนเอกสารสิทธิที่ดิน ให้นายซูริก์ฟัต แต่มารู้ภายหลังว่า นายซูริก์ฟัต ได้เอาไปจำนองกับธนาคารอีกทอดหนึ่ง เพื่อเอาเงินมาใช้จ่าย โดยให้เหยื่อทั้ง 8 รายผ่อนชำระหนี้ด้วยการโอนเงินเข้าบัญชีนายซูริก์ฟัต และภรรยานายซูริก์ฟัต ในทุกๆเดือน เพื่อจะได้ไปผ่อนชำระกับทางธนาคารอีกทอดหนึ่ง แต่ระยะหลังนายซูริก์ฟัตไม่ได้ผ่อนชำระทำให้ทางธนาคารฟ้องร้อง ส่งผลทำให้เจ้าของที่ดินเดิมต้องเสียที่ดินไปโดยไม่สามารถเอากลับคืนมาได้

 

ทั้งนี้ ในรายของนายจรีย์ นั้นระบุว่า ในตอนทำสัญญานั้นบุตรเขย คือนายวรยุทธ โดยนายจรีย์เป็นคนเซ็นโอนที่ดิน โดยไม่ทราบว่านายซูริก์ฟัต จะเอาที่ดินไปจำนองกับธนาคาร เพราะเข้าใจว่าเป็นการทำสัญญาขายฝาก เพื่อเอาเงินมาให้บุตรสาวและบุตรเขย ได้ต่อเติมบ้าน เป็นเงิน 750,000 บาท นายจรีย์ จึงได้มีการฟ้องร้องต่อศาลให้เพิกถอนสัญญาที่ทำกับนายซูริก์ฟัต เพราะเป็นการทำนิติกรรมอำพราง ซึ่งในวันที่ 21 ส.ค.60 ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดกระบี่ได้นัดสืบพยาน แต่ทางทนายจำเลย ขอเลื่อนออกไปโดยให้เหตุผลว่าได้รับข้อมูลจากจำเลยไม่มากพอ ขณะที่รายอื่นๆก็ประสบปัญหาเดียวกันแต่ก็ไม่มีเงินที่จะจ้างทนายไปฟ้องร้อง

 

นายสนั่น ทองเนื้อขาว ยุติธรรมจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า วันนี้เป็นการรับฟังข้อมูลในกรณีที่เกิดขึ้นกับเหยื่อบังฟัต ทั้ง 8 ราย ที่ยื่นขอความช่วยเหลือกับสำนักงานยุติธรรมจังหวัดหลังทางธนาคารฟ้องร้องนายซูริก์ฟัต และเตรียมฟ้องบังคับคดียึดที่ดิน ทำให้ทางผู้ร้องทั้ง 8 รายได้รับความเดือดร้อน และไม่มีเงินที่จะซื้อที่ดิน หรือฟ้องร้องกับนายซูริก์ฟัต ซึ่งยังต้องหาข้อมูลและหลักฐานข้อมูลเพิ่มเติม รวมทั้งหาทางช่วยเหลือในด้านอื่นๆ เพราะในการช่วยเหลือทางกฎหมาย ยังไม่มีความชัดเจนว่า จะต่อสู้คดีชนะหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาเคยมีคดีในลักษณะดังกล่าวมาแล้ว ซึ่งสุดท้ายศาลตัดสินให้แพ้คดี

 

ขณะที่ทางธนาคารกรุงเทพ สาขากระบี่ ก็ได้ยื่นฟ้องนายซูริก์ฟัต หลังไม่มีการชำระหนี้ติดต่อกันเป็นเวลานาน และล่าสุดศาลตัดสินให้ต้องชำระหนี้ ให้แก่ธนาคาร ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมยื่นฟ้องต่อศาลเพื่อบังคับคดี ขณะที่ทางธนาคารก็ไม่ทราบว่า นายซูริก์ฟัต ได้ทำสัญญาไว้กับเหยื่อทั้ง 8 ราย เพราะนายซูริก์ฟัตซึ่งได้รับโอนที่ดินจากเจ้าของทั้ง 8 รายแล้ว รวม12 แปลง จึงมีสิทธิที่จะนำไปจำนองธนาคารตามกฎหมาย ซึ่งหลังจากนี้ก็จะต้องมีการประชุมหารือกันอีกครั้ง โดยจะประสานไปยังธนาคารของรัฐ เช่นธนาคารออมสิน ธนาคาร ธกส.และเชิญผู้เชี่ยวชาญของธนาคารมาร่วมกันหาทางออกต่อไป โดยจะนัดประชุมหารืออีกครั้ง ในเดือนกันยายนนี้

 

ส่วนความคืบหน้าทางคดีขณะนี้ทีมพนักงานสอบสวนในคดีดังกล่าวได้สรุปสำนวน การสอบสวนทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยแล้ว รวมทั้งพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งจะได้นำเสนอ ต่อ พล.ต.อ.สุเทพ เดชรักษา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีนี้ ลงนาม จากนั้นก็จะเดินทางมาส่งสำนวนยื่นพนักงานอัยการจังหวัดกระบี่ ส่งฟ้อง คาดว่าจะดำเนินการได้ภายในสัปดาห์นี้อย่างแน่นอน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน