วันที่ 14 ต.ค.63 ภายใต้นโยบายของผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และตามข้อสั่งการแนวทางการปฏิบัติงานของ พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 3 มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัด สตม. ออกระดมกวาดล้างต่างด้าวผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
โดยตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนนทบุรี ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.ทนงศักดิ์ ใจหลวง ผกก.ตม.จว. นนทบุรี ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ฐิติวัฒน์ ฤชานุกูล รอง ผกก.ตม.จว.นนทบุรี, พ.ต.ท.สุริยะ พ่วงสมบัติ สว.ตม.จว.นนทบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน นำโดย ร.ต.อ.พีระพัฒน์ คล้ายคลึง รอง สว.ตม.จว.นนทบุรี พร้อมพวก ออกตรวจสอบผู้กระทำความผิดในเขตพื้นที่รับผิดชอบจังหวัดนนทบุรี และสืบทราบว่า บริเวณพื้นที่ก่อสร้างหมู่บ้านจัดสรร พื้นที่หมู่ 9 ต.ไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี มีแรงงานต่างด้าวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย และมาลักลอบทำงานก่อสร้าง จึงได้จับกุมดำเนินคดี
ทราบชื่อคือ นายลาย ไม่มีนามสกุล อายุ 28 ปี สัญชาติเมียนมา และ นางสะแม ไม่มีนามสกุล อายุ 23 ปี สัญชาติเมียนมา โดยกล่าวหาว่า “เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักร โดยไม่ได้รับอนุญาต และ คนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน หรือทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิจะทำได้”
สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมออกตรวจไปถึงบริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นโครงการสร้างบ้านจัดสรร พบมีการใช้แรงงานต่างด้าวทำงานก่อสร้างและเข้าพักอาศัยในสถานที่ของโครงการดังกล่าว จึงแสดงตัวขอตรวจสอบ ซึ่งขณะเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมตรวจสอบไม่ปรากฎมีนายจ้าง ผู้ดูแล หรือคนไทยที่เป็นเจ้าของ กิจการมาแสดงตนแต่อย่างใด ซึ่งผู้ถูกจับกุมทั้ง 2 คน แจ้งว่าเป็นสามีภรรยากัน ได้เข้ามาในราชอาณากจักรโดยไม่มีเอกสารหนังสือเดินทาง และได้เดินทางหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรผ่านทางช่องธรรมชาติ อ.แม่สอด จ.ตาก โดยจำวันเวลาและสถานที่ไม่ได้ ขณะเจ้าหน้าที่ตรวจพบกำลังทำงานก่อสร้างในสถานที่เกิดเหตุข้างต้น จากพฤติการณ์และการกระทำดังกล่าว จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและจับกุมดำเนินคดี
ซึ่งการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนนทบุรี เป็นการดำเนินการตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา ที่ต้องการกวดขันจับกุมบุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้ามาในประเทศไทย โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้อยู่ในช่วงของการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid 19 จากแรงงานต่างด้าว ขณะนี้ยังพบมีแพร่เชื้อติดต่ออยู่ในแถบประเทศเพื่อนบ้านที่มีชายแดนติดต่อกับประเทศไทย ทั้งยังเป็นการป้องปรามเพื่อมิให้ก่อเกิดอาชญากรรม อีกทั้งเป็นการยึดถือและปฏิบัติตามกฎหมายไทยอย่างเคร่งครัดต่อไป
