วันที่ 18 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีที่สายด่วน 1669 ศูนย์สั่งการโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ไปรับนายสันติสุข พรรณไวย หรือ น้องลูกชิด อายุ 20 ปี คนไข้ป่วยด้วยโรคธาลาสซีเมียหรือโรคโลหิตจาง ล้าช้าหลังจากที่ได้รับแจ้งบอกแต่เพียงให้กินยาพาราแล้วตอนเช้าจะส่งรถไปรับจนเป็นเหตุทำให้เสียชีวิตในวันต่อมาด้วยอาการติดเชื้อในกระแสเลือดนั้น ซึ่งญาติได้นำศพของน้องลูกชิด ตั้งสวดพระอภิธรรมไว้ 5 คืน ที่วัดวังไทรติ่ง หมู่ที่ 12 ตำบลอ่าวน้อย อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และกำหนดมีพิธีฌาปนกิจศพน้องลูกชิต ในเวลา 15.00 น.วันนี้ ท่ามกลางญาติๆ และกลุ่มเพื่อนน้องลูกชิดที่มาร่วมงาน ทั้งนี้นายแพทย์ทรงฉัตร ศิริโยธิพันธุ์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ และคณะแพทย์, พยาบาล, เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ เดินทางมาวางดอกไม้จันทน์เพื่อไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย แต่ยังคงไร้เงา 2 เจ้าหน้าที่รับสาย 1669 มาร่วมเผาศพ ฝ่ายญาติรู้สึกไม่พอใจ เตรียมหาช่องทางฟ้องร้องทางศาลเพื่อให้เป็นคดีตัวอย่าง
นายแพทย์ทรงฉัตร ศิริโยธิพันธุ์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ขณะนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขไม่ได้สั่งการอะไรมาเป็นพิเศษแต่เป็นหน้าที่ที่ทางโรงพยาบาลจะรับผิดชอบอย่างเต็มที่อยู่แล้ว ส่วนเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 คนมี ยังมีสภาพจิตใจย่ำแย่ เครียดจัด หลังจากตกเป็นข่าวดัง และโดนกระแสโซเชี่ยลโจมตีอย่างหนัก โดยหลังจากนี้จะมีการเชิญญาติเข้าไปพูดคุยกันที่โรงพยาบาลอีกครั้งหนึ่ง โดยรอให้ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเดินทางกลับมาจากไปราชการเสียก่อน
ด้านนายอภิเชษฐ์ พรรณไวย อาของน้องลูกชิด กล่าวว่า ญาติไม่พอใจที่สุดท้ายเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 คนไม่แสดงความรับผิดชอบใดๆ ไม่แม้แต่จะมาเผาศพ ไม่ยอมมาขออโหสิกรรมกับหลานชาย ทั้งนี้หากเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าไม่ผิดก็ต้องต้องเจอกันในชั้นศาล หรือหากกลัวญาต กลัวว่าจะไม่ปลอดภัย ก็ติดต่อมาส่วนตัวได้ แต่นี้ไม่ติดต่อใดๆ กลับมาเหมือนคนขาดความรับผิดชอบ
โดยหลังจากนี้จะมีการปรึกษากับทางญาติๆ อีกครั้งว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่ในส่วนของตนเองก็ได้มีการเตรียมการไว้บ้างแล้ว โดยได้ปรึกษากับทางทนาย และอาจจะฟ้องร้องเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 คน แต่จะไม่เรียกค่าเสียหายใดๆ ซึ่งก็กำลังดูในเรื่องของกฎหมายต่อไป
