วันที่ 18 ก.ย. นายนิรุตต์ ชูจิต ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ต.หนองตาแต้ม อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยชาวบ้านจำนวนประมาณ 30 คน ไปที่ว่าการอำเภอปราณบุรี ยื่นหนังสือให้ นางวราภรณ์ สุขภาคกุล ปลัดอาวุโส อ.ปราณบุรี และนายปัญญา ฉิมพาลี ปลัดฝ่ายความมั่นคง พร้อมกล่าวว่า สัปดาห์ที่ผ่านมานายบุญมี สำมณี หัวหน้าสำนักงานปศุสัตว์ อ.ปราณบุรี เร่งจับสุนัขจรจัดกว่า 2,000 ตัว หลังจากในพื้นที่เกิดโรคพิษสุนัขบ้า พบมีเชื้อโรคพิษสุนัขบ้าถึง 24 ครั้ง จากปัญหาสุนัขจรจัดที่อยู่ในที่พื้นที่สาธารณะ

โดยเฉพาะที่วัดห้วยแสดงพันธ์ หมู่ 6 ต.หนองตาแต้ม และวัดวังพงก์ หมู่ 2 ต.วังพงก์ แต่กลับมีผู้คัดค้านจึงมายื่นหนังสือสนันสนุนให้จับ เพราะเกรงโรคพิษสุนัขบ้า โดยขอให้เร่งป้องกันและกำจัดสุนัขจรจัด และหากผู้ใดจะเลี้ยงสุนัขในชุมชน หมู่บ้าน วัด ตั้งแต่ 10 ตัว ขึ้นไปต้องผ่านการทำประชาคมหมู่บ้านก่อนรวมถึงคอกสุนัขที่เลี้ยงจะต้องขึ้นทะเบียนและต้องปลอดโรคไม่ส่งผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม

ขณะเดียวกันมีชาวบ้านกลุ่มผู้เลี้ยงสุนัขจรจัดใน อ.ปราณบุรี ซึ่งมีชาวต่างชาติให้การสนับสนุน และตัวแทนองค์กรพัฒนาเอกชน “ Watchdog Thailand” ได้เดินทางไปร้องเรียนกับปศุสัตว์อำเภอเช่นกัน แต่ได้เดินทางกลับเนื่องจากพบว่ากลุ่มประชาชนที่คัดค้านการเลี้ยงสุนัขจรจัดมีจำนวนมาก เกรงมีเหตุปะทะจากการโต้เถียง หลังทราบว่าเจ้าหน้าที่ได้จับสุนัขจำนวนมากนำไปไว้ที่ศูนย์เลี้ยงสุนัขที่ จ.บุรีรัมย์

ซึ่งส่วนหนึ่งยืนยันว่าเป็นสุนัขที่มีเจ้าของ โดยเรียกร้องให้นำสุนัขกลับมาคืนในพื้นที่ และหากเจ้าหน้าที่ไม่สามารถทำการคัดแยกได้ หากไม่ดำเนินการตามข้อเรียกร้องจะทำการแจ้งดำเนินคดีเจ้าหน้าที่ในข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ เนื่องจากมีหลักฐานการทำหมันและฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า นอกจากนั้นการเข้าไปจับสุนัขในวัดแห่งหนึ่งได้มีปัญหากระทบกระทั่งกับแม่ชี ทำให้มีการเผยแพร่ภาพในสังคมโซเชียล และมีการร้องเรียนไปยังองค์กรสัตว์ระหว่างประเทศ

นายปัญญา ฉิมพาลี ปลัดรักษาความมั่นคง อ.ปราณบุรี กล่าวว่าในเบื้องต้นได้รับทราบข้อมูลแล้ว ซึ่งมองเป็นความคิดเห็นที่แตกต่างกันของประชาชนในพื้นที่ อย่างไรก็ตามต้องนำเรียนเสนอในที่ประชุมและรายงานให้นายอำเภอปราณบุรี ทราบเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน