วันที่ 20 ก.ย. ร.ต.ท.ถิรโยธิน ทรัพย์สินธุ์ รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งมีชาวบ้านควบคุมตัวชายต้องสงสัยเข้ามาขโมยชุดชั้นในที่หอพักไม่มีชื่อบริเวณหลังสถานี บขส.อุดรธานี แห่งที่ 2 ถนนหลังสถานีขนส่ง ต.บ้านเลื่อม เขตเทศบาลหนองสำโรง อ.เมือง จ.อุดรธานี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่เขตงานบ้านเชียง และตำรวจสายตรวจ191

ที่เกิดเหตุเป็นหอพักไม่มีชื่อ พบนางเอ (นามสมมุติ) อายุ 50 ปี รอให้การตำรวจอยู่ในอาการตื่นตกใจ พร้อมพาไปชี้ตัวคนร้ายที่ถูกชาวบ้านล้อมจับไว้ได้ ทราบชื่อ คือนายณัฐวุฒิ ศุภสาร อายุ 39 ปี ซึ่งแกล้งทำทีพูดจาไม่รู้เรื่องเหมือนคนเมา โดยผู้เสียหายพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบที่ด้านหลังหอพักห้องเบอร์ 3 ที่มีร่องรอยถูกงัด ซึ่งภายในพบชุดชั้นในของผู้เสียหายจำนวนมาก

นางเอ ให้การว่า ตนทำงานเป็นแม่บ้านที่บริษัทแห่งหนึ่ง จึงได้มาเช่าหอพักดังกล่าวอยู่กับสามี โดยสามีทำงานเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างซึ่งจะไปรับเหมาในต่างจังหวัด 2-3 เดือนจึงจะกลับมา เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีคนมาเคาะประตูห้อง แต่พอออกมาดูไม่พบใคร เป็นแบบนี้อยู่หลายครั้ง และก่อนหน้านี้ชุดชั้นในที่ตากไว้หลังบ้านมักจะหายเป็นประจำ จนได้เดินตรวจดูรอบๆ บริเวณหอพัก จึงไปพบชุดชั้นในของตนที่หายไปกองอยู่ในห้องเบอร์ 3

นางเอ ให้การต่อไปว่า จนเมื่อเวลา 21.00 น.คืนที่ผ่านมา ก็มีชายมาเคาะประตูหน้าห้องพักอีกแล้วพูดว่า “เมียจ๋าผัวกลับมาแล้ว เปิดประตูรับผัวหน่อย” ซึ่งตนจำเสียงได้ว่าไม่ใช่เสียงของสามีจึงแอบมองผ่านหน้าต่างบานเกล็ด ก็ไม่พบใครอีก ทำให้เมื่อคืนนอนไม่หลับทั้งคืน จนกระทั่งเวลา 05.30 น.ที่ผ่านมา ตนต้องสะดุ้งตื่นเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูอีกรอบ ก็ได้ยินเสียงเดิมอีก จึงได้ส่องดูทางหน้าต่างดูพบว่าเป็นชายคนหนึ่งทราบชื่อภายหลังคือนายณัฐวุฒิ จึงโทรเรียกเพื่อนบ้านให้มาช่วยจับตัวไว้ได้ที่บริเวณหลังห้องพักเบอร์ 3 และพบชุดชั้นในของตนที่พบเห็นดังกล่าว

ด้านร.ต.ท ถิรโยธิน เปิดเผยว่า ได้สอบปากคำ นายณัฐวุฒิ พบว่ายังให้การวกไปวนมาว่าไม่รู้เรื่อง อ้างว่าขี่รถจยย. มากับเพื่อน แต่ตอนนี้เพื่อนหนีไปก่อนแล้ว โดยชาวบ้านบอกว่า นายณัฐวุฒิ เป็นเด็กรถรับจ้างไม่ประจำทางอยู่ใน บขส.อุดรธานี แห่งที่ 2 ดูจากพฤติกรรม นายณัฐวุฒิ จะคอยติดตามและเฝ้าดูผู้เสียหาย และเข้ามาขโมยชุดชั้นใน เมื่อเห็นผู้เสียหายอยู่คนเดียว แล้วมาเคาะห้องพักผู้เสียหาย อ้างว่าตนเป็นสามีอาจจะหวังเข้าไปทำเรื่องที่ไม่ดีกับผู้เสียหาย แต่โชคดีที่ผู้เสียหายไม่หลงเชื่อ

ร.ต.ท.ถิรโยธิน กล่าวต่อไปว่า สำหรับประวัติของ นายณัฐวุฒิ เคยถูกจับในคดีบุกรุกเคหะสถานและอนาจารในปี 2542 พ้นโทษออกมาปี 2544 และในปี2558 มีหมายจับคดีบุกรุกเคหะสถานและทำร่างกาย ที่ จ.เลย แล้วหลบหนีมาทำงานเป็นเด็กรถอยู่ใน บขส.อุดรธานีแห่งที่ 2 กระทั่งมาก่อเหตุดังกล่าว เบื้องต้นได้ควบคุมตัวไปสอบปากคำและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน